Articles by "technology"
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ technology แสดงบทความทั้งหมด
ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok




ปัญหารถยนต์ไฟฟ้าราคาแพง ค่าซ่อมบำรุงสูง แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว (เปลี่ยนทีก็แพงมาก) เข้าถึงยากอาจจะกำลังหมดไป เพราะยักษ์ใหญ่อย่าง Tesla ปล่อยหมัดเด็ดออกมาอีกแล้ว “1 Million Miles Battery” หรือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ถึง 1 ล้านไมล์ (ประมาณ 1.6 ล้านกิโลเมตร) ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนให้เราเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น และเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นโมเดลให้ผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในอนาคต แล้วเมื่อถึงวันนั้นรถไฟฟ้าจะแพร่หลายมากขึ้น



ที่มาของการคิดค้น



ก่อนหน้านี้ Tesla ได้คุยอวดเอาไว้ว่ารถของเรานั้นสามารถใช้งานได้ถึง 1 ล้านไมล์ และเมื่อปี 2018 ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ด้วยการนำรถไปทดสอบ และนำภาพชิ้นส่วนเฟืองมาให้ดูกันจะจะ ว่านี่คือรถที่วิ่งมาแล้ว 1 ล้านไมล์ ซึ่งชิ้นส่วยสึกหรอไปน้อยมาก~



แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกิดคำถามว่า “แล้วยังไง แบตเตอรี่ก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี?” อีลอน มัสก์ เลยตั้งใจที่จะลบคำสบประมาทนี้และสร้างแบตเตอรี่ 1 ล้านไมล์ขึ้นมาจริง ๆ ไม่นานเกินรอ ตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้ว จดสิทธิบัตรเรียบร้อย และเตรียมที่จะใส่แบตเตอรี่ตัวใหม่นี้เข้าไปในรถ Tesla โมเดลใหม่ที่จะออกปลายปีนี้!



เพราะอะไรถึงใช้ได้นานขนาดนั้น?



แบตเตอรี่ตัวนี้เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (Lithium Iron Phosphate) ที่มีการใส่ NMC หรือ นิกเกิล แมงกานีส โคบอลต์ แบบผลึกเดี่ยวเจเนอเรชั่นใหม่เข้าไป ซึ่งแบตเตอรี่แบบเดิมจะใช้ NMC แบบผลึกเล็ก ๆ ทำให้แตกง่าย ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ทีมวิจัยจึงปรับให้ผลึก NMC ใหญ่ขึ้นเพื่อยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น และผลการวิจัยครั้งนี้คือแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้ 4,000 ครั้ง โดยเสียความจุไปเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังลดการใช้โคบอลต์ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุดลง เพื่อลดต้นทุน จะได้ขายได้ในราคาที่ถูกลงด้วย



และ Tesla ยังได้เทคโนโลยี Cell To Pack จากบริษัท CATL (Contemporary Amperex Technology Ltd.) ยักษ์ใหญ่จากจีน และบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่ง Cell To Pack ถูกออกแบบมาให้ห่อหุ้มแบตเตอรี่ มีคุณสมบัติคือน้ำหนักเบา และราคาถูกด้วย



ถ้าไม่ได้ใช้ Tesla จะได้เข้าถึงเทคโนโลยีนี้หรือเปล่า!?



เรามีโอกาสสูงมากที่จะได้เข้าถึงเทคโนโลยีนี้ เพราะหลังจากที่ Tesla จดสิทธิบัตรแบตเตอรี่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้นำงานวิจัยมาเผยแพร่ ให้เจ้าอื่น ๆ ได้ศึกษาและปรับใช้เป็นของตัวเองกัน คิดว่านี่คือจุดประสงค์หลักของ อีลอน มักส์ ที่ต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่รถยนต์ใช้น้ำมัน และแพร่หลายสักที



และอย่างที่บอกว่า Tesla จับมือกับ CATL ยักษ์ใหญ่จากจีน เมื่อจีนได้เทคโนโลยีอะไรไปอยู่ในมือแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้ และผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ในราคาที่ย่อมเยาว์ นั่นหมายถึงเราไม่จำเป็นต้องซื้อรถ Tesla ก็ได้ เพราะคงมีอีกหลายหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นให้เลือก ในราคาถูก และคุณภาพดี ถึงตอนนั้นรถยนต์ใช้น้ำมันอาจจะตกกระป๋องไปเลยก็ได้



รถยนต์ไฟฟ้า Vs รถยนต์ใช้น้ำมัน เลือกอะไรคุ้มค่ากว่า?



เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าถูกพัฒนามาถึงจุดที่ทั้งตัวรถและแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 1 ล้านไมล์ หรือหลักไทย 1.6 ล้านกิโลเมตร คิดเล่น ๆ ว่า 1 ปีเราใช้รถประมาณ 30,000 กิโลเมตร ซึ่งรถคันนี้สามารถใช้งานได้ถึง 53 ปี เทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมันที่เรารู้กันดีอยู่ว่ามีค่าซ่อมนู่น เติมนี่ จุกจิก ถ้าดูเป็นรายครั้งอาจจะไม่เยอะ แต่ถ้าลองเอามารวมกันก็มีตกใจกันบ้าง รวมไปถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมที่รถยนต์ไฟฟ้าปล่อยมลพิษน้อยกว่า ดีต่อโลกมากกว่า ถึงตอนนั้นเราคงต้องคิดกันแล้วว่าทำไมยังต้องใช้รถยนต์น้ำมันต่อไปอีก…



การมาของ 1 Million Miles Battery ถือว่าเป็นการปฏิวัติวงการยานยนต์ครั้งใหญ่ นำเราเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า และผลักให้รถยนต์ใช้น้ำมันหายไป ในอนาคตอันใกล้ เรามาจับตาดูผู้เล่นรายอื่น ๆ กันต่อไปว่าจะปล่อยหมัดเด็ดอะไรมาเซอร์ไพรส์กันอีก คิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้มาคุยกันค่ะ

ขอขอบคุณข่าวจาก LDA ลดา
 



ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok

พบกับจอภาพ Apple Watch ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าใหม่, Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น, การออกกำลังกายใหม่ๆ, คุณสมบัติการวิ่งที่ล้ำหน้า และการเชื่อมต่อเซลลูลาร์ที่ดียิ่งขึ้น ขอแนะนำ Apple Watch Series 4 ออกแบบทางรากฐานใหม่หมดทั้งในด้านดีไซน์และวิศวกรรม เพื่อช่วยให้คุณแอ็คทีฟ มีสุขภาพดี และต่อติดทุกเรื่องได้ดียิ่งขึ้น ดูเพิ่มเติมที่ https://www.apple.com/th/apple-watch-...

ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok


พบกับอุปกรณ์ใหม่หมดทั้ง 3 รุ่น ทั้ง iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ซึ่งเป็นหน้าจอทั้งหมด มาพร้อม Face ID ที่ล้ำหน้าและเร็วยิ่งขึ้น, ชิพ A12 Bionic ที่ทั้งฉลาดและทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟน, ระบบกล้องสุดล้ำที่มาพร้อมโหมดภาพถ่ายบุคคลและระยะชัดลึกแบบปรับได้ที่มาใหม่ ซึ่งเสริมการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ และอีกมากมาย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone XS และ iPhone XS Max ที่ https://apple.com/th/iphone-xs/ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone XR ที่ https://apple.com/sg/iphone-xr/ เพลงโดย obylx (https://itunes.apple.com/th/artist/ob...)
ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok


หลังจากที่ปล่อยทั้งภาพและข่าวหลุดออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันทั้งปี ในที่สุด Apple ก็ทำการเปิดตัว iPhone XsiPhone Xs Max, และ iPhone Xr ณ Steve Jobs Theater เป็นที่เรียบร้อยโดยในงานเปิดมาด้วยความตื่นเต้นแบบสายลับในการส่งของสร้างความตื่นเต้นให้กับคนในงานได้ดีเลยทีเดียวและสิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือการเปิดตัวของ iPhone Xs และ iPhone Xs Max




โดย iPhone Xs และ Xs Max ยังคงมาในดีไซน์เดียวกันกับ iPhone X แต่มีความแตกต่างตรงที่มาพร้อมชิป A12 ฺBionic ที่เป็นชิปประมวลผลที่ใช้การผลิตระดับ 7 นาโนเมตร ส่งผลให้ iPhone ทั้ง 2 รุ่นนี้กลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรก ที่ใช้เทคโนโลยีนี้




ยิ่งไปกว่านั้น iPhone ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมความจุสูงสุด 512 GB ด้วย และยังมาพร้อมระบบเสียงสเตอริโอใหม่ที่ทาง Apple พัฒนาให้สมจริงมายิ่งขึ้น ด้านระบบรักษาความปลอดภัยยังคงมาพร้อมเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าด้วยกล้อง iR




แม้หน้าจอของ iPhone Xs และ iPhone Xs Max จะมาในดีไซน์เดิมแต่ ทาง Apple ได้เคลมไว้ว่าน่าจอใหม่สามารถแสดงผลได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 60% นอกจากนี้ ใน iPhone Xs Max ยังสามารถแบ่งเป็น 2 หน้าจอในการใช้งานแนวนอน แบบเดียวกับ iPad และ iPhone Xs ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมโดยการใช้งาน 2 ซิมจะมีแค่ในประเทศจีนเท่านั้น





สเปคของ iPhone Xs

  • Super Retina HD จอภาพ Multi-Touch แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ขนาด 5.8 นิ้ว  ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซลที่ 458 ppi
  • ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic
  • ความจุ 64GB, 256GB และ 512 GB
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP ทั้งคู่ กล้องมุมกว้างรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และกล้องเทเลโฟโต้รูรับแสงขนาด ƒ/2.4  ซูมออปติคอล และซูมดิจิตอลได้สูงสุด  10 เท่า พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่แบบ ออปติคอล
  • กล้องหน้า กล้องความละเอียด 7 MP f/2.2 บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p
  • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน ระดับ IP68
  • มี 3 สี ทอง เทาสเปซเกรย์ เงิน

สเปคของ iPhone Xs Max

  • Super Retina HD จอภาพ Multi-Touch แบบ OLED ทั้งหน้าจอ ขนาด 6.5 นิ้ว  ความละเอียด 2688 x 1242 พิกเซลที่ 458 ppi
  • ชิปประมวลผล Apple A12 Bionic
  • ความจุ 64GB, 256GB และ 512 GB
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP ทั้งคู่ กล้องมุมกว้างรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และกล้องเทเลโฟโต้รูรับแสงขนาด ƒ/2.4  ซูมออปติคอล และซูมดิจิตอลได้สูงสุด  10 เท่า พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวคู่แบบ ออปติคอล
  • กล้องหน้า กล้องความละเอียด 7 MP f/2.2 บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p
  • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน ระดับ IP68
  • มี 3 สี ทอง เทาสเปซเกรย์ เงิน



ราคา iPhone Xs และ iPhone Xs Max

ราคา iPhone Xs

  • iPhone Xs 64GB – 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 40,500 บาท)
  • iPhone Xs 256GB – 1149 ดอลลาร์ (ประมาณ 46,500 บาท)
  • iPhone Xs 512GB – 1349 ดอลลาร์ (ประมาณ 53,500 บาท)

ราคา iPhone Xs Max

  • iPhone Xs Max 64GB – 1099 ดอลลาร์ (ประมาณ 44,500 บาท)
  • iPhone Xs Max 256GB – 1249 ดอลลาร์ (ประมาณ 50,500 บาท)
  • iPhone Xs Max 512GB – 1449 ดอลลาร์ (ประมาณ 57,500 บาท)

ข่าวจาก เอ็มไทย
ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok

ดูแล้วคุ้นๆ ไหม? ‘รถพ่วง’ ที่ถอดแบบมาจาก ‘ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์’
6 ปีหลังจากบริษัท W2 ของนิวซีแลนด์เปิดตัวรถพ่วงแคมป์ปิงชื่อว่า “โรมอโตว์” (Romotow) ในที่สุดก็ได้ทราบว่ารถแคมป์ปิงรุ่นดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจและถอดแบบมาจาก “ยูเอสบีแฟลชไดร์ฟ” ที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นเอง
ส่วนที่พ่วงท้ายออกแบบมาให้มีจุดเชื่อมต่อ 1 จุด และสามารถหมุนเปิดออกมาได้เหมือนแฟลชไดร์ฟ

ตอนที่ยังไม่หมุนเปิด ส่วนพ่วงนี้มีความยาว 30 ฟุต กว้าง 8.5 ฟุต ภายในมีพร้อมทั้งครัว ห้องน้ำ เตียงนอน และเมื่อหมุนเปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เรายังสามารถนำโต๊ะเก้าอี้มาตั้งวางนั่งพักผ่อนได้อีกด้วย
ขณะนี้รถแคมป์ปิงโรมอโตว์คันแรกกำลังอยู่ระหว่างการผลิต ทางบริษัทผู้ผลิตรับคำสั่งซื้อแบบจำกัดจำนวนที่ราคาคันละ 350,000 เหรียญสหรัฐ และจะนำส่งจากโรงงานไปถึงมือลูกค้าโดยตรง




ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok


เวชศาสตร์การฟื้นฟูสภาวะเสื่อม หรือ Regenerative Medicine และวิศวกรรมเนื้อเยื่อ หรือ Tissue Engineering นับเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ในยุคสมัยใหม่ที่ในปัจจุบันเริ่มมีความเป็นไปได้ และน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากในปัจจุบันเราสามารถสร้างอวัยวะเทียมได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และนำมาใช้ทดแทนอวัยวะที่เสื่อมไปได้จริง ไม่ว่าจะเป็น หลอดลมใหญ่ (Trachea) หลอดเลือดหัวใจสำหรับบายพาส ท่อน้ำตา จมูกและใบหู เป็นต้น ด้วยการใช้วัสดุก้าวหน้าขั้นสูง (Advanced Materials)สมัยใหม่ต่างๆ รวมทั้ง แกรฟีน (graphene) วัสดุคาร์บอนสองมิติซึ่งเป็นวัสดุมหัศจรรย์แห่งยุคนี้ก็ว่าได้ เพื่อสร้างอวัยวะเทียมที่มีขนาดเล็กลงได้ แข็งแรงทนทาน และเข้าได้กับร่างกายมนุษย์ โดยไม่ถูกต่อต้านจากร่างกาย

นักวิจัยจากบริษัท NanoRegMed ของสหราชอาณาจักร ได้คิดค้นวัสดุคอมพอสิต (composite) ระหว่าง polycaprolactone (PCL) กับแกรฟีน โดยที่สามารถปรับสภาพให้เข้าได้กับเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้โดยทำให้แผ่นแกรฟีนแทรกเข้าไปอยู่ด้านในของโครงข่ายพอลิเมอร์ ดังนั้น แกรฟีนจะถูกห่อหุ้มอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้แกรฟีนสัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง วัสดุคอมพอสิตแกรฟีนดังกล่าวมีความแข็งแรงมาก ทนแรงได้ถึง 80 กิโลกรัม และที่สำคัญคือสามารถขึ้นรูปได้ด้วยการพิมพ์แบบสามมิติ (3D Printing) แล้วนำไปเป็นโครง (scaffold) เพื่อเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ ให้กลายเป็น อวัยวะเทียม ขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุคอมพอสิตดังกล่าวเพื่อสร้างหลอดเลือดแดงเทียม ที่ติดกับแอนตี้บอดี้ ทำจากสายโปรตีนเพปไทด์ที่ด้านในผนังของหลอดเลือดเทียม ทำให้กลายเป็นเยื่อบุผนังหลอดเลือด
ถึงแม้ว่าวัสดุทางการแพทย์ที่กล่าวมานี้ยังไม่ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ตาม จะต้องผ่านการทดสอบทางคลินิกก่อน แต่ความฝันที่จะมีวัสดุก้าวหน้าทางการแพทย์ที่สามารถปรับแต่งให้มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงเพื่อใช้สร้างอวัยวะเทียมต่างๆได้อย่างเหมาะสม ก็ไม่ไกลเกินความจริง นอกจากเรื่อง การสร้างอวัยวะเทียมแล้วแกรฟีนคอมพอสิตยังถูกนำไปใช้สำหรับการสร้างกระดูกเทียมเพื่อฝังในร่างกายด้วย และมีการใช้แกรฟีนคอมพอสิตกับสังกะสีออกไซด์เพื่อเคลือบฟันให้ทนทานต่อการกัดกร่อนอีกด้วย ดังนั้น แกรฟีนคอมพอสิตจึงเป็นวัสดุก้าวหน้าขั้นสูงสำหรับการแพทย์สมัยใหม่ที่น่าสนใจและติดตามเป็นอย่างยิ่ง
*บทความโดย ดร. อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัย ศูนย์นวัตกรรมการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทรอนิกส์อินทรีย์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok


เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27 ส.ค.) เครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพลำแรกของอินเดีย ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางทางอากาศ ได้ขึ้นทดสอบบินแล้วเป็นครั้งแรก
Bombardier Q400 คือ เครื่องบินใบพัดขนาด 72 ที่นั่ง ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพผสมกับกังหันอากาศ ได้ออกตัวจากสนามบิน Jolly Grant ในเมืองเดหราดูน รัฐอุตตราขัณฑ์ ทางตอนเหนือของประเทศจีน มุ่งหน้าไปยังกรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดีย และถึงที่หมายโดยปลอดภัยภายในเวลา 25 นาที

หากการทดสอบนี้ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ อินเดียก็สามารถจะเข้าร่วมกลุ่มชนชาติชั้นนำด้านการบิน ที่รวมถึงสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียได้
"เชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้สำหรับการทดลองครั้งนี้ได้มาจากสถาบันในเมืองเดหราดูน ที่นำปิโตรเลียม เศษวัสดุเหลือทิ้งการเกษตร น้ำมันที่ไม่ใช้บริโภค ของเสียจากชุมชนและอุตสาหกรรมมาพัฒนา" เจ้าหน้าที่กล่าว
"การทดสอบบินครั้งนี้ ไม่มีผู้โดยสาร มีเพียงเจ้าหน้าที่ของสายการบินต้นทุนต่ำ Spicejet ที่ขึ้นไปดำเนินงาน และเหล่าวิศวกรเครื่องบินที่ขึ้นไปเตรียมพร้อม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่นักบินกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น" เขากล่าวเสริม

ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา กำลังเตรียมส่งยานสำรวจ "พาร์กเกอร์ โซลาร์ โพรบ" (Parker Solar Probe) ฝ่าอุณหภูมิร้อนแรงเข้าไปในชั้นบรรยากาศส่วนบนของดวงอาทิตย์ เพื่อศึกษาปรากฏการณ์เรื่องลมสุริยะในเดือนหน้านี้
ยานสำรวจดังกล่าวจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ภายในระยะห่างราว 6.4 ล้านกิโลเมตรจากพื้นผิว ซึ่งเป็นส่วนของโคโรนา (Corona) หรือเปลวพลาสมาร้อนแรงของอนุภาคพลังงานสูงที่บริเวณรอบนอกของดวงอาทิตย์ โดยอุณหภูมิในส่วนนี้สูงได้ถึงกว่า 1 ล้านองศาเซลเซียส ไปจนถึงเกือบ 10 ล้านองศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าร้อนกว่าด้านในของดวงอาทิตย์เสียอีก
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลว่ายานพาร์กเกอร์ โซลาร์ โพรบ จะถูกความร้อนมหาศาลและรังสีที่เจิดจ้าเผาไหม้ทำลายไป แม้อนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์จะสัมผัสกับยานได้ก็ตาม เพราะมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บางประการและมีเทคโนโลยีป้องกันความร้อนที่ตระเตรียมไว้อย่างเพียบพร้อมดังนี้
1. อุณหภูมิสูงไม่ได้ทำให้เกิดความร้อนสูงเสมอไป
ที่จริงแล้วอุณหภูมิ (Temperature) คือสิ่งที่บ่งบอกว่าอนุภาคเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าใด ในขณะที่ความร้อน (Heat) นั้นคือความสามารถในการถ่ายทอดพลังงานของอนุภาค ในบางสภาวะที่อนุภาคอุณหภูมิสูงมีความหนาแน่นต่ำ เช่นในห้วงอวกาศหรือชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์ จะไม่เกิดการถ่ายทอดความร้อนให้วัตถุอย่างยานอวกาศมากนัก
ลองนึกภาพขณะเอามือยื่นเข้าไปในเตาอบร้อน เปรียบเทียบกับการเอามือจุ่มลงไปในน้ำเดือด เราจะทนต่อไอความร้อนในเตาอบได้มากกว่า เช่นเดียวกับเกราะป้องกันความร้อนของยานสำรวจซึ่งจะมีอุณหภูมิราว 1,400 องศาเซลเซียสเท่านั้น ขณะที่ผ่านเข้าไปในบรรยากาศชั้นโคโรนาซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า 1 ล้านองศาเซลเซียส

2. เกราะป้องกันความร้อน TPS
ระบบป้องกันความร้อน Thermal Protection System หรือ TPS หนา 4.5 นิ้ว ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในรูปของแผ่นโฟมน้ำหนักเบา จะทำให้ด้านในของยานอวกาศมีอุณหภูมิเพียง 30 องศาเซลเซียสเท่านั้น ส่วนพื้นผิวด้านนอกที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์มีการเคลือบเซรามิกสีขาวเพื่อสะท้อนความร้อนออกไปให้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้เกราะนี้ทนความร้อนได้ถึง 1,650 องศาเซลเซียส
3. อุปกรณ์นอกเกราะป้องกันความร้อนทำจากวัสดุจุดหลอมเหลวสูง
อุปกรณ์ของยานบางส่วนเช่นสายเคเบิลและ "ถ้วยฟาราเดย์" (Faraday cup) ซึ่งใช้ตรวจวัดเก็บข้อมูลประจุไฟฟ้าและกระแสอิเล็กตรอนในลมสุริยะนั้น ตั้งอยู่ภายนอกเกราะป้องกันความร้อน ทำให้ต้องใช้วัสดุที่มีจุดหลอมเหลวสูงสร้างอุปกรณ์เหล่านี้ โดยมีการใช้ผลึกของแซฟไฟร์ (Sapphire) ทำปลอกหุ้มสายเคเบิล และใช้โลหะผสมโมลิบดีนัมอัลลอย (Molybdenum Alloys ) รวมทั้งทังสเตนซึ่งมีจุดหลอมเหลวที่ 3,422 องศาเซลเซียส ในการผลิตถ้วยฟาราเดย์สำหรับภารกิจนี้โดยเฉพาะ

4. ระบบทำความเย็นที่ทรงพลัง
มีการติดตั้งระบบทำความเย็นที่สามารถทำให้ห้องรับแขกขนาดกลางเย็นยะเยือกได้ โดยใช้น้ำปราศจากประจุไฟฟ้า (Deionized water) เป็นสารหล่อเย็น เพราะทนต่ออุณหภูมิที่ผันแปรไปอย่างมากระหว่าง 10-125 องศาเซลเซียส ตลอดการเดินทางสู่ดวงอาทิตย์ได้ ทั้งยังมีการอัดแรงดันเพื่อให้น้ำมีจุดเดือดสูงขึ้นเป็น 125 องศาเซลเซียสด้วย
ทั้งนี้ นาซาตั้งชื่อยานสำรวจดวงอาทิตย์พาร์กเกอร์ โซลาร์ โพรบ เพื่อเป็นเกียรติแก่ยูจีน พาร์กเกอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันผู้บุกเบิกงานวิจัยด้านลมสุริยะ โดยมีกำหนดจะส่งยานขึ้นสู่ห้วงอวกาศด้วยจรวดเดลตา 4 ที่แหลมคานาเวอรัลในศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจดวงอาทิตย์เป็นเวลา 7 ปี

ข่าวจาก บีบีซีไทย
ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok

ในวันที่ 22 ก.ค. เวลา 1.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) บริษัท SpaceX ของอีลอน มัสก์ได้ยิง "block 5" จรวด Falcon 9 รุ่นใหม่จากฐานปล่อยจรวดแหลมคะแนเวอรัลขึ้นสู่อวกาศ ซึ่งทำหน้าที่บรรทุก “Telstar 18 Vantage” ดาวเทียมสื่อสารเชิงพาณิชย์ที่หนักที่สุดที่บริษัทเคยสร้างมา
ดาวเทียมบรอดแบนด์ “Telstar 18 Vantage” มีน้ำหนักมากถึง 7,076 กิโลกรัม ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับสร้างการเชื่อมต่อให้แก่กลุ่มลูกค้าในสหรัฐอเมริกา
อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัท SpaceX ได้ให้ข้อมูลว่า "block 5" จะเป็นยานอวกาศ Falcon 9 รุ่นสุดท้าย ซึ่งจะสามารถนำมาใช้ซ้ำได้อีกถึง 10 ครั้ง โดยไม่ต้องดำเนินการตกแต่งใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประกาศถึงเวลาที่แน่นอนว่าจะนำจรวดรุ่นนี้มาบินซ้ำเมื่อไหร่
นอกจากนี้ บริษัท SpaceX ยังมีกำหนดจะส่งจรวด block 5 อีกชุดขึ้นสู่อวกาศในวันพุธนี้ จากฐานทัพอากาศ Vandenburg ในแคลิฟอร์เนียอีกด้วย โดยภารกิจนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งดาวเทียมสื่อสาร Iridium ใหม่ จำนวน 10 ดวงขึ้นสู่วงโคจร


ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok


ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมแห่งหนึ่งของเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางจีนตะวันออก ดูจะเดินนำคู่แข่งไปอีกก้าว หลังเปิดตัวพนักงานขนนุ่มแสนน่ารักคอยบริการรับออเดอร์และคิดเงินในตัวเดียว
รายงานระบุว่าแคท คาเฟ่ (cat cafe) ร้านดังกล่าวได้สวมเสื้อคลุมพิมพ์ลายคิวอาร์ โค้ด (QR Code) ให้เหล่าแมวเหมียว ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยประหยัดค่าจ้างพนักงานอย่างมาก
บรรดาลูกค้าสามารถใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองสแกนคิวอาร์ โค้ดบนหลังแมว เพื่อสั่งเครื่องดื่มและขนมสารพัดเมนู รวมถึงชำระเงินพร้อมกับทำหน้าที่ทาสแมวไปด้วย




ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok
 แผงโซลาร์เซลล์จำนวนมหาศาลถูกติดตั้งเหนือภูเขาไท่หาง มณฑลเหอเป่ย จนกลายเป็นฟาร์มโซลาร์ขนาดยักษ์ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง (Installed Capacity) 20 เมกะวัตต์
แผงโซลาร์เซลล์เหล่านี้ได้รับการติดตั้งในปริมาณที่พอดีกับภูเขาและอยู่ในองศาที่รับแสงอาทิตย์ได้ดีที่สุด
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจจะกำจัดพลังงานสกปรกให้หมดไปจากจีน ฟาร์มแห่งนี้สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 20,000 ตัน และทดแทนการใช้ถ่านหินได้ปีละ 7,500 ตัน โดยใช้ต้นทุนไปแล้วประมาณ 26.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 880 ล้านบาท)

Xinhua News
ไทย กรุงเทพ กทม การเมือง ท่องเที่ยว สังคม Thai Thailand bangkok

ทีมผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การติดตั้งห่วงนกแห่งชาติ (National Bird Banding Center) ของจีนได้ติดตั้งห่วงคล้องตัวพร้อมอุปกรณ์จีพีเอส (GPS) กับเป็ดแมนดาริน บริเวณทะเลสาบซีหูหรือทะเลสาบตะวันตก (West Lake) ของเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียงทางจีนตะวันออก เมื่อวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) ที่ผ่านมา โดยรายงานระบุว่านับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งชุดอุปกรณ์ดังกล่าวกับเป็ดแมนดาริน เพื่อดำเนินการศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการอพยพย้ายถิ่นฐาน



ข่าวจาก
สำนักข่าวซินหัว