“บิ๊กตู่” พบชาวเพชรบูรณ์ ยืนยันทหารจำเป็นแจงกติกาเลือกตั้ง ย้ำพรรคต้องเสนอชื่อคนเป็นนายกฯ เสนอนโยบายก่อน พรรคไหนได้คะแนนเสียงมากที่สุดได้ตั้งนายกฯ จัดตั้งรัฐบาล ย้ำให้คิดเองจะเลือกใคร ไม่ใช่เลือกตั้งตามคนข้างบ้าน ขณะที่ชาวบ้านเชียร์เป็นนายกฯ ต่อ ทำให้ตอบรับแบบทีเล่นทีจริงว่า “จ้ะ”
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ซึ่งเป็นคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการ และได้รับงบประมาณอาคารตามนโยบายคลินิกหมอครอบครัว
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับประมาณ 500 คนว่า วันนี้เห็นความก้าวหน้าเรื่องความร่วมมือของหมอครอบครัวซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลนี้ที่ทำให้เกิดระบบไพรมารีแคร์ ในระยะแรกเราทำได้จำนวนหนึ่ง ไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะทำให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอนาคตของเราต้องแข็งแรง เพราะฉะนั้น ระบบไพรมารีแคร์นั้นสำคัญที่สุด และก็ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพออกกำลังกาย จากนั้นนายกฯ ได้ถามประชาชนว่ารักหมอหรือไม่ ก่อนกล่าวต่อทันทีว่า ถ้ารักหมอทุกก็คงไม่เกลียดนายกฯ เพราะนายกฯ ที่ทำก็ทำเพื่ออนาคต
นายกฯ กล่าวอีกว่า ดีหรือไม่ที่บ้านเมืองสงบเช่นนี้ วันนี้บ้านเมืองไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง คนไทยมักทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย เราไม่สามารถบังคับใครได้ แต่จะต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้ เพราะแม้กระทั่งวันนี้เรื่องละครคนก็ยังทะเลาะกัน โดยเถียงกันว่าจะชอบใครดีระหว่างตัวพระเอก นางเอก ตัวร้าย ต่างจากละครของต่างประเทศที่มีการสอดแทรกเรื่องของประเทศ ตนไม่อยากให้พวกเราทะเลาะกันเอง ในฐานะนายกรัฐมนตรีพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยไม่นึกถึงตัวเอง เพราะถ้าไม่จำเป็นคงมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนที่มาต้อนรับว่า
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และเยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ซึ่งเป็นคลินิกหมอครอบครัวแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการ และได้รับงบประมาณอาคารตามนโยบายคลินิกหมอครอบครัว
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับประมาณ 500 คนว่า วันนี้เห็นความก้าวหน้าเรื่องความร่วมมือของหมอครอบครัวซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลนี้ที่ทำให้เกิดระบบไพรมารีแคร์ ในระยะแรกเราทำได้จำนวนหนึ่ง ไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะทำให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยอนาคตของเราต้องแข็งแรง เพราะฉะนั้น ระบบไพรมารีแคร์นั้นสำคัญที่สุด และก็ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพออกกำลังกาย จากนั้นนายกฯ ได้ถามประชาชนว่ารักหมอหรือไม่ ก่อนกล่าวต่อทันทีว่า ถ้ารักหมอทุกก็คงไม่เกลียดนายกฯ เพราะนายกฯ ที่ทำก็ทำเพื่ออนาคต
นายกฯ กล่าวอีกว่า ดีหรือไม่ที่บ้านเมืองสงบเช่นนี้ วันนี้บ้านเมืองไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง คนไทยมักทะเลาะเบาะแว้ง เพราะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย เราไม่สามารถบังคับใครได้ แต่จะต้องหาจุดกึ่งกลางให้ได้ เพราะแม้กระทั่งวันนี้เรื่องละครคนก็ยังทะเลาะกัน โดยเถียงกันว่าจะชอบใครดีระหว่างตัวพระเอก นางเอก ตัวร้าย ต่างจากละครของต่างประเทศที่มีการสอดแทรกเรื่องของประเทศ ตนไม่อยากให้พวกเราทะเลาะกันเอง ในฐานะนายกรัฐมนตรีพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยไม่นึกถึงตัวเอง เพราะถ้าไม่จำเป็นคงมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนที่มาต้อนรับว่า
“การที่ผมเข้ามาทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ใครไม่รักผมไม่เป็นไร แต่ผมรักพวกคุณก็แล้วกัน ประเทศนี้ถ้าไม่มีพลเรือน ตำรวจ ทหารก็อยู่ไม่ได้ ไหนใครบอกว่าไม่ต้องมีทหาร แล้วถ้ามีอะไรขึ้นมาใครจะมาช่วยพวกท่าน เพราะทหารอยู่ในกรม กอง ในกองร้อย เรียกได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงต้องมีรถลาม้าช้างอยู่ในกรมกอง เบี้ยเลี้ยงก็จ่ายเพียงครั้งเดียว หน่วยงานอื่นไม่มีคนขนาดนี้ ไม่ได้มีทหารไว้ให้ผมปฏิวัติ ผมเข้ามาเพราะเหตุผลความจำเป็น เป็นสถานการณ์ที่ต้องเข้ามา ถามว่าถ้าไม่มีทหาร และตำรวจ ภาคใต้จะเป็นอย่างไร ดังนั้นอย่าไปฟังเวลาที่เขาพูด พวกนั้นต้องการที่จะแบ่งแยกหรือเปล่า ที่บอกว่าให้เอาทหารออกไปจากพื้นที่ ถ้าออกไปเมื่อไหร่ก็เสร็จเมื่อนั้น”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย จึงขอให้มีหลักการและหลักคิดที่ถูกต้องว่าประเทศของเราควรเดินหน้าไปอย่างไร ประชาชนจึงต้องเตรียมการให้ดีว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเลือกตั้ง ไม่ใช่นอนอยู่บ้านไม่ไปกาบัตรใช้สิทธิ หรือทำลายบัตรเลือกตั้ง วันนี้เรามีกฎหมายการเลือกตั้งใหม่ ที่พรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อคนเป็นนายกรัฐมนตรีและนโยบายพรรค ถ้าเรายังไม่รู้ว่าจะเลือกเบอร์ไหน แต่กลับไปถามบ้านข้างๆ แล้วเลือกตาม ตรงนี้ถือว่าจบ
จากนั้นนายกฯ ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายภาพกับประชาชนกลุ่มต่างๆ พร้อมกล่าวว่า “การเลือกตั้งอย่าไปเลือกอะไรที่เรื่อยเปื่อย วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงทางการเมือง แต่มาพบกับประชาชน อย่าให้ใครมาว่าผมมาหาเสียง ผมมาในฐานะนายกรัฐมนตรี และในการเลือกตั้งครั้งหน้าทุกคนต้องรู้ก่อนว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากตรงไหน จะมาจากพรรคที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลและตั้งนายกรัฐมนตรี เป็นหลักการที่ทุกคนต้องรู้ ผมไม่ได้พูดถึงตัวเอง แต่ทุกพรรคจะต้องเสนอคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน”
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอต้อนรับด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้ไปใช้สิทธิหรือไม่ กลุ่มผู้สูงอายุกล่าวตอบว่า ไปเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงพูดยิ้มๆ เชิงกระเซ้าว่า “แล้วเลือกใคร” ก่อนจะรีบบอกว่าไม่ต้องบอกเพราะไม่ได้ถาม ขณะที่ประชาชนได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่ารักลุงตู่ อยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อไป พล.อ.ประยุทธ์จึงได้หันมาตอบรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนที่จะเดินขึ้นรถว่า “จ้ะ”
ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
Post A Comment: