"จตุพร"มาแนวธรรมะ "เราควรคุยกันให้จบก่อน ไม่เช่นนั้นหลังเลือกตั้งจะมีเรื่องอีก"

10 ก.ย. 61 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในงานเสวนา "อนาคตประเทศไทย ตายหรือตันก่อนการเลือกตั้ง" ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  ช่วงหนึ่งว่า ในฐานะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดก็ไม่ได้ เป็นราษฎรเต็มขั้น รู้สึกห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์ข้างหน้า เราจะเจอวิกฤติอะไร ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญ 60 ถูกออกแบบให้มีเรื่องได้ตลอดเวลา  ตอนนี้มีการเรียกร้องให้คลายล็อก ปลดล็อกการเมือง แต่ผู้บริหารบ้านเมืองต้องคลายล็อกจิตใจตัวเองให้ได้ก่อน 
นายจตุพร กล่าวว่าบรรยากาศเลือกตั้งในปี2562 อาจเกิดความวุ่นวายได้ ถ้าไม่มาพูดคุยกันก่อน เพียงแค่คำว่านายกฯคนนอกหรือคนในก็เกิดเรื่องได้ ถ้าได้นายกฯคนใน วันข้างหน้าก็ไปเจอองค์กรอิสระ วุฒิสภา ซึ่งถูกออกแบบให้มีอำนาจมากกว่ารัฐธรรมนูญ2550 ส่วนนายกฯคนในอาจได้เห็นเพียง 3-6เดือน ต่อมาก็ได้นายกฯคนนอกอีก ส่วนนายกฯคนนอก ถ้าไม่อดทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์ และยิ่งถ้าเป็นคนที่ทุกคนคิด ก่อนจะเป็นนายกฯคนนอก มีดาบอาญาสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตาย เสื้อกายสิทธิ์ พอเป็นนายกฯคนนอก ดาบหรือเสื้ออาญาสิทธิ์ไม่เหลือแล้ว 
"เราควรคุยกันให้จบก่อน ไม่เช่นนั้นหลังเลือกตั้งจะมีเรื่องอีก"นายจตุพร ย้ำและว่าสิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศ คนที่เริ่มได้นอกจากพรรคการเมืองคุยกันคือ ผู้มีอำนาจควรมาตกลง หารือ ภายใต้กติกาที่แก้ไขอะไรไมได้ มาหารือกัน จะทำไม่ให้เกิดเหมือนพฤษภา35 แม้มีเลือกตั้ง 61 ก็อาจมี 61/1 หรือ 61/2 แต่ๆละครั้งจะมีคนตาย 
นายจตุพร กล่าวว่าตนไม่ได้สนใจใครจะแพ้จะชนะ สถานการณ์ 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยกลัวคำว่า ไม่สงบ ซึ่งมีการอธิบายไปทุกเรื่อง บ้านเมืองสงบดีกว่ามีปัญหาปากท้อง หรือมีความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ถ้าไม่ทำความเข้าใจกันก่อน หลังเลือกตั้งที่คิดว่าจะมี 1-2-3-4 บางทีอาจไม่มี สิ่งที่ทำกันอยู่ อาจทำให้การเลือกตั้งที่ห่างกันอยู่แล้วยิ่งห่างไกลออกไปอีก อยากให้ประเทศไทยที่เป็นระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ตอนปลายรัฐบาล เหมือนจะมีอะไรมาเป็นเหตุ เวลาที่เป็นนาทีทองสำคัญ มีทางทั้งให้นายกฯลงตำแหน่งสวยงามหรือไม่สวยงามเสมอ แต่ไม่รู้ตอนท้ายทำไมมักเลือกทางลงไม่สวยงาม 
"ทั้งหมดทั้งปวง จะฝากอนาคตไว้กับซีกใด ซีกหนึ่งไม่ได้ เลยขอฝากไว้ทุกฝ่าย ผู้มีอำนาจ ถ้าใจกว้างควรชวนทุกฝ่ายเข้ามาร่วม มาหาทางออก เอาประชาธิปไตยให้ได้ก่อน เอาเรื่องส่วนร่วมมาก่อนเรื่องส่วนตัว ถ้ายังดำรงอยู่เหมือนปัจจุบัน แม้เลือกตั้งแล้วก็ยังวิกฤต แล้วเมื่อเกิดแล้วก็ยังไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในบ้านเมือง"นายจตุพร กล่าว
เขา ย้ำว่าที่เน้นให้คุยกัน เพราะมีปัญหาปากท้อง แต่ที่ทุกคนยังอดทน ก็เพราะกลัวว่าจะไม่สงบ โดยต้องมีการคุยกัน เมื่อพรรคการเมืองคุยกันจบ ค่อยไปคุยกับผู้มีอำนาจ แล้วตกลงเป็นสัญญาประชาคม เพื่อให้เกิดประเทศเดินไปได้
เมื่อถามว่าสมัยอยู่ในคุกได้คุยกับแกนนำสีเสื้อทุกสี นายจตุพร กล่าวว่า เทปปราศรัยในสถานการณ์หนึ่ง มาเปิดอีกสถานการณ์หนึ่ง มันคนละอารมณ์ ซีกประชาชนเมื่อไปอยู่ในเรือนจำไม่ว่าเป็นตน นายสนธิ  พระพุทธอิสระ  มีโอกาสก็คุยกัน เราไม่เคยมีปัญหาส่วนตัว แต่10ปีทีผ่านมา เป็นความเชื่อ แต่ในสถานการณ์ที่เราอยู่ในจุดต่ำสุด คุยกันได้ ที่พูดไม่ได้หมายความว่า ให้ทุกพรรคไปคุยกันในเรือนจำ
"ก่อนการยึดอำนาจ ผม คุณสุเทพ พล.อ.ประยุทธ ที่พูด แม้เราเห็นต่างกัน แต่เราคุยกันได้ เพราะไม่เคยมีเรื่องส่วนตัว ในหลายสมรภูมิก็ร่วมกันมา ถ้าเราคลายล็อกจิตใจได้ เป็นเรื่องที่ดี กติกาตอนนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เงื่อนไขหนักกว่า2534 ที่เกิดพฤษภาทมิฬ  ถ้าเราคุยกัน ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนคววามเชื่อ ทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ แต่เราเคารพกติกา ถ้าซีกนักการเมืองจับมือให้ได้ก่อน เราก็สามารถหาทางออกจากวิกฤติได้ ไม่เชื่อคนนอกจะเข้ามาได้ ถ้าคนในไม่เปิดประตู คนนอกไม่มีสิทธิ" นายจตุพร กล่าว.

ข่าวจาก ไทยโพสต์
Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: