"บิ้กป้อม"จัดใหญ่!! ทำลายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่กว่าพันล้าน


3 ก.ย. 61 - ที่หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว  โดยมี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเอกอัครราชทูตประจําประเทศไทยหลายประเทศ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้มีของกลางทั้งสิ้น 2,101,347 ชิ้น มูลค่าประมาณ 1,374 ล้านบาท  มาจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จำนวน 187,332 ชิ้น ศุลกากร จำนวน 1,732,965  ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 181,050 ชิ้น ประกอบด้วย เสื้อผ้ากระเป๋าเข็มขัดรองเท้านาฬิกาโทรศัพท์มือถือแผ่น CD /VCD แว่นตาเครื่องสำอางหมวกและผ้าห่ม เป็นต้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและพัฒนาระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเคารพสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งการดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการปรับสถานะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐอเมริกามาตรา 301 พิเศษจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ มาเป็นบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้รัฐบาลยังคงปฏิบัติตามแผนการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามไม่ให้มีการจำหน่าย สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งปรากฏผลเป็นรูปประธรรมว่าการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีปริมาณลดลง จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกัน ปราบปรามตั้งแต่การผลิตการจำหน่ายการนำเข้าส่งออกอย่างจริงจัง
"เรายังคงทำต่อไปและไม่หยุดยั้งในการเข้มงวดทรัพย์สินละเมิดทางปัญญา ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้หมดไปเราจะได้มีสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนตลาดชายแดนเราดำเนินการจับกุมหมดในทุก ๆ พื้นที่ แต่ก็ยังมีเล็ดลอดแต่ก็พยายามจะจับให้ได้มากที่สุด  เราเชื่อมั่นว่าข้าราชการจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างเด็ดขาด" พล.อ.ประวิตร ระบุ

ข่าวจาก ไทยโพสต์ 
Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: