เผยการใช้วงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อสินค้าในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เกือบ 1 ปี มียอด 4.1 หมื่นล้าน และในจำนวนนี้เป็นการใช้ซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตรกว่า 2 หมื่นล้าน ช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากกว่า 1 แสนล้าน ตั้งเป้าปี 62 มีเงินหมุนเวียนในระบบไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้าน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ที่นำวงเงินในบัตรไปซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐจำนวนกว่า 5 หมื่นราย ซึ่งมีทั้งร้านค้าแบบใช้เครื่องรูดบัตร EDC และร้านค้าแบบใช้มือถือรับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2560- 20 ก.ย.2561 มียอดซื้อสินค้ารวม 4.1 หมื่นล้านบาท และในยอดนี้เป็นการใช้เพื่อซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกรที่นำไปจำหน่ายในร้านค้ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก
“ในวงเงิน 2 หมื่นล้านที่ใช้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตรที่นำมาวางจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐนี้ คาดว่าจะมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาคได้ถึง 5 รอบ คิดเป็นวงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาทในปี 2561 เพราะเงินได้ลงไปถึงผู้ผลิตสินค้าในชุมชน ลงไปถึงเกษตรกรจริงๆ และเมื่อคนเหล่านี้มีรายได้ ก็นำเงินไปจับจ่ายใช้สอยต่อ ทำให้เศรษฐกิจในระดับฐานรากมีการหมุนเวียน”นายสนธิรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2562 กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะผลักดันให้สินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกร มีช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้เพิ่มมากขึ้น เพราะหากมีสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายได้เพิ่ม ก็จะช่วยเพิ่มวงเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนให้เกิดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท
สำหรับสินค้าชุมชนและสินค้าจากเกษตรกรที่ขายดีในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ได้แก่ ข้าวสาร ผักและผลไม้ตามฤดูกาล เช่น แตงโม ทุเรียน มะนาว สับปะรด กระเทียม หอมแดง ขนมเปี๊ยะเต้าส้อ เค้ก กล้วยตาก กล้วยฉาบ ข้าวแต๋น น้ำพริกต่างๆ เป็นต้น
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าชุมชน สินค้าเกษตรกร เข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ กระทรวงฯ มีแผนที่จะจัดเชื่อมโยงเพื่อสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2561 ที่ผ่านมา ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีร้านค้าและผู้ผลิตเข้าร่วมประมาณ 500 ราย มีการจับคู่ซื้อขายกว่า 90 ราย วงเงินกว่า 5 ล้านบาท และจะมีการซื้อขายต่อเนื่องในอนาคตอีก และในวันที่ 27 ก.ย.2561 ได้จัดที่ จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ยังมีกำหนดจัดในภาคอื่นๆ ต่อไปด้วย ซึ่งจะกำหนดอีกครั้ง
ข่าวจาก ไทยโพสต์
Post A Comment: