แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับเครือกฤษดามหานคร โดยพบว่ามีธุรกรรมการเงินจำนวน 26 ล้านบาท และ 10 ล้านบาท เข้าไปยังกลุ่มของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องนายพานทองแท้กับพวกรวม 3 คน          
                ประกอบด้วยนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร นายวันชัย หงส์เหิน  สามีของนางกาญจนาภาในข้อหาฟอกเงิน โดยนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวพร้อมสำนวนที่มีความเห็นสั่งฟ้อง ไปส่งมอบให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ 
                ส่วนนางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนาภาพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินเพราะลูกสาวและลูกเขยนำพอร์ตการลงทุนของนางเกศินีไปใช้เล่นหุ้น
               แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า สำหรับคดีนี้ดีเอสไอเริ่มต้นการสอบสวนคดีฟอกเงินภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ มีการสอบปากคำพยานมากกว่า 100 ปาก แต่คดีไม่มีความชัดเจนจนกระทั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่าการอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับเครือกฤษดามหานครมีความผิดฐานทุจริต และพิพากษาจำคุกผู้บริหารธนาคารกรุงไทยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงผู้บริหารกฤษดามหานคร  
                ทั้งนี้การสอบสวนคดีฟอกเงินของดีเอสไอต้องสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2561  นี้  ตามอายุความ 15 ปีของคดีฟอกเงิน โดยที่ผ่านมาคณะพนักงานสอบสวนร่วมระหว่างดีเอสไอและอัยการจากสำนักการสอบสวน 3 รวมถึงที่ปรึกษาคดีพิเศษจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้สรุปสำนวนและมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
                จากนั้นกระบวนการเข้าสู่การประมวลสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อให้ดีเอสไอลงความเห็นสั่งฟ้อง โดยที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนซึ่งมีพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ลงมติเสียงข้างมากเห็นสมควรสั่งฟ้อง และเสนอสำนวนพร้อมความเห็นไปให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีความเห็นพ้องกับพนักงานสอบสวน จึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ต้องหารับทราบและนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ พิจารณาในขั้นตอนต่อไป

ข่าวจาก คมชัดลึก

Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: