พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะมอบหมายให้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงในนามของสำนักนายกรัฐมนตรี ในเรื่อง ครม.อะไรต่างๆ เหล่านี้ เพราะหลายคนอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ตนก็ให้สัมภาษณ์แบบเดิม เพียงแต่ทำหน้าที่ชี้แจงแทน ซึ่ง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักฯ ก็ไปทำหน้าที่รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ก็แบ่งงานกันไป ยังช่วยกันไปเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าทำงานด้วยกัน รัฐบาลเดียวกัน ใครอยู่ตรงไหนก็เหมือนกัน เพียงแต่วิธีการนำเสนออาจจะได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ลุคส์ใหม่หน่อย ไม่เบื่อหน้านายกฯ เบื่อหรือยัง จะได้หาคนมาชี้แจงแทนนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.สรรเสริญยังจะรั้งตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์อยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ก็จะแยกหน้าที่กันไปเลย แบ่งหน้าที่กันใหม่เป็นการภายในได้อยู่แล้ว ไม่ต้องไปออกคำสั่งอะไรใหม่หรอก คุยกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร ทาง พล.ท.สรรเสริญก็สามารถจะชี้แจงได้เหมือนกัน ถ้าสงสัยตรงนี้ไปถามตรงโน้นก็ได้ ทำไมเดี๋ยวนักข่าวก็ไปบอกว่าถูกขึ้นหิ้ง
ปรับแผนการสื่อสาร
เมื่อถามว่า เป็นการปรับกลยุทธ์การให้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า นายพุทธิพงษ์พูดภาษาง่ายๆ บางทีทหารพูดเป็นทางการ แต่พล.ท.สรรเสริญไม่ได้บกพร่องอะไร เพียงแต่เปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นเอง เมื่อถามอีกว่าเป็นเพราะใกล้เลือกตั้งหรือไม่ ถึงได้ให้คนที่เชี่ยวชาญการเมืองอย่างนายพุทธิพงษ์เข้ามาทำหน้าที่โฆษก พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ไม่เกี่ยวๆ การเมืองก็คือการเมือง"
ด้านนายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ตนทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ ในส่วนที่จะต้องชี้แจงกับประชาชนก็ทำได้ในระดับหนึ่ง วันนี้นายกฯ มีแนวทางที่ให้ พล.ท.สรรเสริญไปปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์อย่างเต็มตัว ทั้งนี้ตนจะทำหน้าที่ 2 ตำแหน่ง ทั้งรองเลขาธิการนายกฯ และโฆษกประจำสำนักนายกฯ ซึ่งตนเพิ่งทราบว่าจะต้องมาทำหน้าที่โฆษกฯ ตอนที่นายกฯ แถลงกับสื่อมวลชนเมื่อสักครู่ นายกฯ ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า
"ก็ต้องมีการปรับแผนในการสื่อสารกับสื่อมวลชนในหลายมิติ ที่ทำไปก่อนหน้านี้คือเรื่องโซเชียลมีเดีย จากนี้ไปก็จะทำเพิ่มอีกหลายระดับ ซึ่งจะมีทีมเข้ามาช่วยในการสื่อสาร ทั้งเรื่องสังคม ปัญหาของประชาชน ซึ่งจะใช้การสื่อสารตรงนี้อำนวยความสะดวกกับสื่อมวลชนในทุกด้าน เพื่อสื่อสารถึงประชาชนให้ดีขึ้น"
ถามว่า เป็นการปรับโฉมใหม่ของรัฐบาลก่อนที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะกระบวนการเลือกตั้งก็มีโรดแมปอยู่ก่อนแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์และข้อมูลข่าวสาร ถ้าทำแล้วสามารถอำนวยความสะดวกให้กับสื่อมวลชน เพื่อนำเสนอประชาชนให้ง่ายขึ้น ก็เป็นยุทธศาสตร์ในเรื่องการสื่อสารมากกว่า
ส่วน พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า หลังจากที่นายกฯ มีคำสั่งดังกล่าว ตนจะทำหน้าที่เพียงตำแหน่งเดียวคืออธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ต้องรอระเบียบขั้นตอนของการโอนย้ายจากข้าราชการทหารมาเป็นข้าราชการพลเรือนให้เรียบร้อยเสียก่อน เมื่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตน ซึ่งหมายถึงเลขาธิการนายกฯ และนายกฯ ตกลงใจเลือกสิ่งใดให้แล้ว ย่อมถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้บังคับบัญชาให้ความไว้วางใจ ตนก็จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง อยู่ตรงไหนก็ยังทำงานได้ ทั้งนี้ เมื่อเป็นข้าราชการ อยู่ในตำแหน่งเดียว แล้วจะมาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ ไม่ได้ เพราะตำแหน่งดังกล่าวเป็นของข้าราชการการเมือง
Post A Comment: