สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนเมื่อวันที่ 3 กันยายนว่าคำจำกัดความของเฟซบุ๊กว่าสิ่งใดบ้างที่เป็น “การก่อการร้าย” นั้น “กว้างมากเกินไป” และเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเซ็นเซอร์และการปฏิเสธการเข้าถึงการให้บริการของเฟซบุ๊กตามอำเภอใจได้
นางฟิออนนูอัลลา นี อาโอลาอิน ผู้รายงานพิเศษด้านการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการก่อการร้ายของยูเอ็น ได้เขียนถึงนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเฟซบุ๊กเพื่อแสดงออกถึงความกังวลกี่ยวกับความพยายามของบริษัทที่จะสกัดกั้น “ผู้ก่อการร้าย” จากการใช้แพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
นางนี อาโอลาอินเตือนว่า “การใช้คำจำกัดความที่กว้างและคลุมเครือมากเกินไปอาจนำไปสู่การบังคับใช้ที่เลือกปฏิบัติ การเซ็นเซอร์มากเกินเหตุ และการปฏิเสธการใช้และเข้าถึงบริการของเฟซบุ๊กตามอำเภอใจ”
เธอกล่าวด้วยว่า คำจำกัดความของเฟซบุ๊กระบุสถานะของกลุ่มไร้รัฐทั้งหมดที่ใช้ความรุนแรงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือจุดประสงค์ตามที่ต้องการว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเช่นเดียวกันหมด
นโยบายของเฟซบุ๊กห้ามผู้ก่อการร้ายจากการใช้บริการของตนและใช้เทคโนโลยีในการตรวจจับและเพิ่มจำนวนผู้ตรวจสอบดูแลเพื่อค้นหาและนำเนื้อหาออกไป
“การใช้คำจำกัดความที่กว้างเป็นเรื่องน่ากังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่รัฐบาลหลายชาติพยายามใช้วิธีการหลากหลายรูปแบบเพื่อตีตราฝ่ายที่คัดค้านและเห็นต่างไม่ว่าจะใช้วิธีการที่สงบหรือรุนแรงว่าเป็นการก่อการร้าย” นางนี อาโอลาอินกล่าว
“คำจำกัดความยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายด้านมนุษยธรรมนานาชาติจากการที่ระบุคุณสมบัติของกลุ่มไร้รัฐติดอาวุธทั้งหมดไปจนถึงกลุ่มที่ไม่มีความขัดแย้งด้านอาวุธนานาชาติว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แม้ว่ากลุ่มเหล่านี้จะปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมนานาชาติ” นางนี อาโอเลอินย้ำ พร้อมเสริมว่า “การขาดหายไปของกระบวนการอิสระในการทบทวน ควบคุมดูแลและเฝ้าจับตากิจกรรมของเฟซบุ๊กถือว่าเป็นปัญหาอย่างมาก”
ข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
Post A Comment: