12 ก.ย. 61 - นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำนปช. หรือคนเสื้อแดง กล่าวว่ากรณีที่มีการจับกุมเครือข่ายสหพันธรัฐไทแล้วมีการเชื่อมโยงกับคนเสื้อแดงนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่านปช. เป็นกลุ่มคนที่จุดยืนชัดเจนว่าเราเรียกร้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตรงนี้คือจุดยืนของนปช.
"หากใครที่ไม่มีจุดยืนตรงนี้เหมือนกับเรา ก็ถือว่าเขาไม่ใช่นปช. ส่วนใครจะมาอ้างว่าเป็นเสื้อแดง เสื้อสีอะไร ก็อ้างได้ แต่มันไม่ใช่ เพราะนปช. เรามีจุดยืนตรงกัน"นายก่อแก้ว กล่าว
เมื่อถามว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็เคยร่วมเรียกร้องกับคนเสื้อแดงมาก่อนแล้วหนีไปต่างประเทศ นายก่อแก้ว กล่าวว่า ต้องยอมรับบางส่วนว่าหลายคนเคยเป็นแนวร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าใครคือนปช. ใครไม่ใช่ ดังนั้นคนที่เป็นนปช.ก็ยืนยันอยู่ในประเทศเราไม่ไปไหน แล้วเราก็เรียกร้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ซึ่งเป็นระบอบที่เหมาะสมที่สุดกับประเทศไทย ดังนั้นคนอื่นที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วมาอ้างเสื้อแดงนั้น ก็อ้างไป แต่มาอ้างเป็นนปช. ไม่ได้
เขา เชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงแยกแยะออกว่าอะไรเป็นอะไร เท่าที่ติดตามข่าวกลุ่มคนที่ใส่เสื้อลักษณะนี้ก็มีไม่กี่คน ไม่ถึง 10 คน ดังนั้นมันน้อยมากเมื่อเทียบกับประชาชนทั้งประเทศ 60 กว่าล้านคน มันไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงอะไร แต่ก็ถูกต้องแล้วที่ฝ่ายความมั่นคงได้หยุดกลุ่มบุคคลที่มีแนวคิดแบบนี้ อย่างน้อยก็เพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่อง อย่าไปเสื้อตามๆกัน
“รัฐบาลต้องดูว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการ แต่ถ้าไม่ผิดก็เชิญมาคุยกันได้ แต่ต้องยอมรับว่าหากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะไม่มีอำนาจพิเศษ การไปควบคุมตัวคนโดยไม่ได้ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายอาญา ทำไม่ได้ ถ้าทำเจ้าหน้าก็ถูกฟ้องร้องได้ แต่รัฐบาลชุดนี้มีอำนาจพิเศษ สามารถที่จะคุมตัวประชาชนคนไหนก็ได้ โดยคุมตัวไว้ 7 วัน โดยยังไม่ตั้งข้อกล่าวหา แต่การทำแบบนี้ก็เป็นดาบสองคม เพราะต่างชาติเขามองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศทั่วไป” นายก่อแก้ว กล่าว
แกนนำนปช. กล่าวว่า อย่างไรก็ตามกรณีนี้ ก็ทำให้เห็นว่าเวลาหาจำเลยไม่ได้ก็โยนให้เสื้อแดงไว้ก่อน เพราะคนเสื้อแดงถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่มีจุดยืนตรงข้ามกับรัฐบาลปัจจุบัน เพราะเราเรียกร้องประชาธิปไตย แต่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการ ดังนั้นเมือเกิดอะไรขึ้นเขาก็โยนมาฝ่ายตรงกันข้ามไว้ก่อน เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ส่วนจะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าจะมีการดำเนินการในมิติที่ปกติหรือผิดปกติ
“ต้องเข้าใจว่าฝ่ายที่ยืนตรงข้ามกับฝ่ายประชาธิปไตย เขาเองก็พยายามดิสเครดิตฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อให้ความน่าเชื่อถือมันลดน้อยลง เพราะที่ผ่านมาประชาชนที่มีจุดยืนเดียวกัน ยังเหนียวแน่นกันอยู่ ทำให้ผู้ครองอำนาจในปัจจุบัน เกิดความหนักใจว่าที่พยายามทำให้ประชาชนยอมรับเขา แต่ก็ยังไม่สามารถทำสำเร็จ ส่วนนปช. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งโดยตรง แต่เกี่ยวข้องในมิติที่เป็นแนวร่วมกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการดิสเครดิตเสื้อแดง ก็เพื่อต้องการลดทอนความน่าเชื่อถือของคนเสื้อแดงหรือนปช. ให้ได้มากที่สุด เพราะเขาคงคาดหวังว่าอาจจะส่งผลในด้านบวกต่อเขาบ้างในการเลือกตั้ง ส่วนตัวผมคิดคิดว่าไม่กระทบกับเราหรอก” นายก่อแก้ว กล่าว.
Post A Comment: