IMF ชี้ญี่ปุ่นต้องขึ้นภาษีผู้บริโภคเป็น 15% ถึงมีเงินพอสำหรับสังคมผู้สูงอายุ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ประเมินว่า ญี่ปุ่นต้องขึ้นภาษีผู้บริโภค หรือภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% รวมทั้งปฏิรูประบบประกันสุขภาพและระบบบำนาญ เพื่อรับมือสังคมผู้สูงอายุที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลสำหรับสวัสดิการสังคม

นายพอล คาชิน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ของ IMF ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะสูงมากถึงเกือบ 2 เท่าตัวขอ GDP และยังเผชิญกับภาวะที่ประชากรมากกว่า 1 ใน 4 เป็นผู้สูงอายุ ทำให้รัฐบาลมีความเสี่ยงสูงด้านภาระงบประมาณ 
IMF แนะนำให้ญี่ปุ่นทยอยขึ้นภาษีผู้บริโภคระหว่างร้อยละ 0.5 ถึง 1 แต่ก็ย้ำด้วยว่าการขึ้นภาษีเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคม โดยต้องมีการปฏิรูประบบสวัสดิการด้วย





ตัวเลขภาษี 15% นี้สอดคล้องกับการประเมินขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD ที่เคยระบุกับรัฐบาลญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขึ้นภาษีถึงระดับนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยในสภาวะทางเศรษฐกิจอันซบเซาของญี่ปุ่นในขณะนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขึ้นภาษีผู้บริโภคเป็น 8% ในปี 2014 และรัฐบาลของนายกฯชินโซ อะเบะมีแผนที่จะขึ้นภาษีเป็น 10% ในปี 2017 แต่ได้เลื่อนออกไปเป็นปี 2019 เพราะเกรงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะยกเว้นการขึ้นภาษีสำหรับสินค้าบางอย่าง เช่น อาหารสด และของใช้จำเป็น แต่ทาง IMF ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่าควรขึ้นภาษีทั้งหมดเป็นแบบแผนเดียวกัน


IMF ยังเน้นว่าญี่ปุ่นต้องลดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการด้วย เช่น ขยายอายุในการสะสมเงินบำนาญ หรือในผู้ป่วยจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น จากปัจุบันที่ผู้ป่วยรับภาระราวร้อยละ 30 ของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สรุปแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องนี้.





ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: