"กบง." เห็นชอบดึงเงินกองทุนน้ำมันฯอุดหนุนราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรกรณีราคาน้ำมันดิบตลาดโลกไม่เกิน 80 เหรียญฯต่อบาร์เรลประเดิมพรุ่งนี้ 15 สต./ลิตรล็อตแรกหากตลาดโลกไม่เกินนี้คาดใช้เงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท พร้อมขยายวงเงินอุ้มแอลพีจีถัง 15 กก.ไว้ 363 บ.จนถึงสิ้นปีเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาทเป็น 7,000ล้านบาท
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า กบง. ได้เห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ออกประกาศนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในอัตราไม่เกิน 30 สตางค์ต่อลิตรกรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ในระดับไม่เกิน 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นปีนี้ โดยจะนำร่องชดเชย 15 สตางค์ต่อลิตรเบื้องต้นมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอยู่ในระดับ 80 เหรียญฯต่อบาร์เรลการตรึงราคาดังกล่าวจะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯจนถึงสิ้นปีประมาณไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
" ราคาน้ำมันตลาดโลกอยู่ในระดับผันผวนจึงต้องการส่งสัญญาณให้มีการตื่นตัว ติดตาราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านจะเริ่มมีผลในเดือนพ.ย.นี้ซึ่งหากที่สุดราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้นสูงกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลดีเซลขายปลีกจะต้องเกิน 30 บาทต่อลิตร ทางสนพ.จะเสนอมาตรการที่เหมาะสมในการนำเสนอมายังกบง.อีกครั้งหนึ่ง" นายศิริกล่าว
นอกจากนี้กระทรวงพลังานได้มีนโยบายส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลเกรดพิเศษ บี 20 ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งตามจุดจอดรถ(Fleet ) ที่มีราคาจำหน่ายต่ำกว่าดีเซล 3 บาทต่อลิตรจึงต้องการให้ผู้ประกอบการขนส่งต่างๆ รวมถึงเรือโดยสารหันมาใช้บี 20 มากขึ้นซึ่งกระทรวงพลังงานมีเป้าหมายที่จะผลักดันการใช้วันละ 15 ล้านลิตรแต่ขณะนี้มีผู้มาใช้เพียง 3 ล้านลิตรเท่านั้น ทั้งนี้มาตรการที่เตรียมไว้ทั้งหมดจึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการขนส่ง รถและเรือโดยสารสาธารณะจะไปปรับขึ้นค่าขนส่งหรือค่าบริการแต่อย่างใด
" หากพิจารณาจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นสูงแต่ด้วยความร่วมมือของผู้ค้าน้ำมันบางรายที่ได้ลดค่าการตลาดน้ำมันลงเหลือเพียง 1.26 บาทต่อลิตรจากปกติที่ควรจะเป็น 1.50 บาทต่อลิตร จึงทำให้ราคาขายปลีกดีเซลไม่ได้สูงเท่ากับราคาตลาดโลกนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา"นายศิริกล่าว
นอกจากนี้กบง. กบง. ได้เห็นชอบขยายกรอบวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อนำมาดูแลราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)ขนาดถัง 15 กิโลกรัม(กก.) ที่ 363 บาทจนถึงสิ้นปีเป็น 7,000 ล้านบาทจากก่อนหน้านี้กบง.ได้อนุมัติกรอบวงเงินไว้แล้ว 3,000ล้านบาทแต่ด้วยราคาแอลพีจีตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้บัญชีแอลพีจีปัจจุบันติดลบ 3,337 ล้านบาท
" กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีแอลพีจีมีเงินไหลออกสุทธิ 804 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้สถานะบัญชีแอลพีจีปัจจุบันติดลบ 3,337 ล้านบาท ขณะที่บัญชีน้ำมันไหลเข้า 26 ล้านบาทต่อเดือน จึงมีสถานะบัญชีน้ำมัน 29,359 ล้านบาท รวมสถานะกองทุนฯ ณ วันที่ 2 ก.ย.2561 มีฐานะสุทธิ 26,022 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยืนยันว่าด้วยมาตรการที่จะดูแลราคาดีเซลและแอลพีจีจะไม่กระทบฐานะกองทุนน้ำมันฯแต่อย่างใดเพราะฐานะโดยรวมยังแข็งแกร่ง"นายศิริกล่าว
ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
Post A Comment: