กลบกระส "เพื่อไทย" แพแตก! "แม้ว" อัดผู้มีอำนาจดิ้นรนสารพัดเพื่อรักษาตัวเอง เย้ย “บิ๊กตู่” วันนี้ไม่รู้จักกันแล้ว เปรยเป็นลูกผู้ชายชาติทหารอย่าโกงเลือกตั้งเด็ดขาด ลั่น “Comeback” ตามรอยมหาเธร์ ไม่กล้าบอก “น้องปู” ถือพาสปอร์ตประเทศไหน แย้มมีให้ใช้ 2-3 ชาติ


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน สำนักข่าว “บีบีซี ไทย” ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของ นายทักษิณ ชินวัตร ผ่านทาง ยูทูปแชนเนล “BBC News ไทย” ซึ่งมีความยาวทั้งสิ้น 12 นาที ซึ่ง นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ครอบคลุมทั้งประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
โดย นายทักษิณ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงประชาชนทั้งในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจ และกระบวนการยุติธรรมที่ค่อนข้างจะเลือกปฏิบัติ เสียดายประเทศไทยที่ในอดีต เมื่อไม่มีความขัดแย้ง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเมือง แต่วันนี้เรื่องของสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพ กระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ต้องมาเป็นเครื่องมือเพื่อรักษา regime หมายถึงผู้มีอำนาจปกครองในปัจจุบัน ซึ่งกฎหมายและทรัพยากรต่างๆ ควรจะต้องถูกใช้เพื่อประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อผู้มีอำนาจปกครอง เพราะ regime เป็นเพียงตัวแทนที่มาทำงานให้กับประชาชน  แต่วันนี้ผู้มีอำนาจปกครองได้ใช้ทรัพยากรของประเทศ กฎหมาย และกระบานยุติธรรม รวมทั้งการละเมิดสิทธิ เพื่อรักษา regime ไว้เท่านั้น
เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนชาติตะวันตกกำลังให้การยอมรับรัฐบาลไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นายทักษิณ ตอบว่า การยอมรับของโลกทุนนิยม เป็นการยอมรับกันที่ผลประโยชน์ เอากระเป๋าสตางค์มาใส่เตรียมที่จะซื้อของ พวกบริษัทใหญ่ๆ มีอิทธิพลในการล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้ต้อนรับได้ทุกที่ แต่ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ปกติ ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ ทางยุโรปจะไม่ต้อนรับผู้ปกครองประเทศที่ไม่ได้มาจากประชาชน ถ้าจะทำให้เขาต้อนรับ ก็ ต้องมีเงิน เรามีเงินไปซื้อของ เขาก็ชอบ เขาก็เปิดประตูต้อนรับทั้งนั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่อังกฤษต้อนรับรัฐบาลรัฐประหาร มีนัยสำคัญอย่างไร นายทักษิณ ตอบว่า สะท้อนชัดเจนว่า 1.เขารู้ว่าบ้านเมืองเรากำลังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง และเขาคงไม่อยากจะเลือกข้าง เขาคงต้องเลือกผลประโยชน์ เพราะเขายังต้องทำมาหากินกับประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามยังถามถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศอังกฤษด้วยวีซ่าประเภทไหน นายทักษิณ ตอบว่า ไม่ใช่วีซ่าที่ให้อยู่ 10 ปี แต่เป็นวีซ่าที่มีอายุ 10 ปี สามารถเดินทางเข้าๆ ออกๆ ได้ตลอดเวลา โดยการเข้ามาแต่ละครั้งจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่เข้าออกกี่ครั้งก็ได้ ไม่เป็นไร เหมือนนักธุรกิจทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ทำให้เห็นได้ว่าเขาไม่ได้คิดมากที่จะต้อนรับเรา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามย้ำว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือพาสปอร์ตประเทศไทย นายทักษิณ กลับเลี่ยงที่จะตอบ โดยบอกเพียงว่า “อย่าเพิ่งบอกเลยดีไหม มันก็มี 2-3 ประเทศ”
เมื่อถามอีกว่า อังกฤษอาจมองว่า  นายทักษิณ อาจกลับมาชนะการเลือกตั้งได้อีกครั้งหนึ่งหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ไม่ได้มองเรื่องชัยชนะ เรื่องการที่อังกฤษให้ไม่ให้ โดยส่วนตัวมองว่า อังกฤษเป็นประเทศที่มาจากประชาธิปไตย อย่างน้อยๆ เขามีความเห็นใจการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ด้วยกติกาด้วยกรรมการซึ่งเอียงๆกันอยู่ จึงไม่รู้ว่าอะไรจะเป็นอย่างไร แต่ด้วยกระแสประชาชน เรามั่นใจว่าประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามอีกว่า ชัยชนะการเลือกตั้งของ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถือเป็นกำลังใจให้ใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ตนอายุ 69 ปี อ่อนกว่า นายมหาเธร์ 23 ปี เพราะฉะนั้นเรื่องการ “Comeback” (การกลับมา) มันเกิดขึ้นได้ ถ้าเรายังแข็งแรงอยู่ สติปัญญายังดีอยู่ แต่สมมติว่าเราไม่แข็งแรงแล้ว สติปัญญาไม่ดีแล้ว ก็ไม่ควรอาสาไปทำงานสาธารณะ งานประชาชน
“แต่สำหรับผม ตอนนี้ 69 เดือนหน้านี้ ก็ยังคิดว่าแข็งแรงอยู่ จะพยายามให้แข็งแรงเหมือน นายมหาเธร์ ตอน 92 ให้ได้”
นายทักษิณ ยังวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ของประเทศไทยต่อว่า มีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญบ่อยมาก แม้แต่ไซด์เสื้อสูทของตนยังเปลี่ยนช้ากว่า รัฐะรรมนูญไทยเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เอาคนมาเดินขบวน เอาทหารมาหนุนข้างหลัง ก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งได้
ประชาชนยังไงก็ต้องการการเมืองเพื่อประชาชน แล้วเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมีความทันสมัยขึ้น ประชาชนมองเห็นความหลอกลวงของนักการเมืองได้ดี ใครโกหกหลอกลวงหรือไม่เห็นได้หมด ดังนั้นถ้าใครคิดจะเป็นที่รักของประชาชน ก็ต้องเอาหัวใจไปทำงานให้เขา ถ้าเอาเพียงกิริยา ท่าทาง แอ็คชั่น เพื่อจะไปต้มเอาคะแนน ก็ยาก เขาฉลาดที่จะรู้หมด
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าได้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า สาธุ ขอให้เกิดเถอะ สงสารประชาชนจริงๆ พร้อมกับย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะที่ 1 แน่นอน มั่นใจ เมื่อเข้าคูหาแล้วประชาชนเขาคิดยังไง อย่าประเมินประชาชนต่ำเกินไป คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนพุทธ ก็อาจจะเป็นคนที่ยอมอดทน อดกลั้น นิ่งเฉย รอไปก่อน คิดว่าวันหนึ่งเขาจะมีพลังแสดงอำนาจเขาอย่างสุจริต แล้ววันนั้นเนี่ย เราก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“ถ้าลูกผู้ชายก็อย่าไปโกง โดยเฉพาะเป็นลูกผู้ชายชาติทหารนี่ อย่าไปโกงเลือกตั้งเด็ดขาด อายเขา ไม่อายใครก็อายตัวเอง”
เมื่อถามว่า อยากฝากอะไรถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า ไม่มีอะไรจะฝาก “เพราะว่าก็รู้จักกันดี แต่ว่าวันนี้เขาไม่รู้จักผม ผมรู้จักเขาอยู่”
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับพรรคอนาคตใหม่ นายทักษิณ ตอบว่า ดี เป็นพรรคทางเลือกพรคคหนึ่ง เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากจะมาแสดงบทบาททางการเมือง เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะจุดยืนก็ชัดเจน
การเลือกตั้งครั้งหน้าจุดยืนมีอยู่ 3 กลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มหนึ่งยังไงก็จะเอาทหาร เผด็จการ ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่มีสิทธิเสรีภาพก็ยอม อีกกลุ่มนึงยังไงก็ต้องยึดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะว่าความคิดสร้างสรรค์ทำให้เกิดเศรษฐกิจ ถ้าคนไม่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดคุยในการดำเนินการ เศรษฐกิจคงไปได้ยาก ประเทศคงลำบาก ฉะนั้นฝ่ายนี้เป็นฝ่ายที่เอาประชาธิปไตยและเอาประชาชน และอีกฝ่ายหนึ่ง ใครก็ได้ พร้อม มีข้อต่อรองทางตำแหน่งเท่านั้น มันก็มีอยู่ 2-3 พรรค เราก็รู้อยู่พรรคไหนเป็นพรรคไหน ประชาชนรู้เอง ว่าจะเลือกยังไง ประชาชนก็เลือกอยู่ 2 ข้างเท่านั้นเอง
เมื่อถามย้ำว่า ทำไมถึงมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง นายทักษิณ ตอบว่า เพราะเป็นคนที่ใกล้ชิดประชาชน แม้กระทั่งออกมาแล้ว มีอะไรก็ยังติดต่อกับประชาชนเป็นระยะๆอยู่ สังเกตดูได้ ส.ส. ที่ออกจากพรรคเพือ่ไทยมีน้อย ส่วนใหญ่ก็มีคดี จะได้หลุดคดีเสียที ก็ไปเถอะ ไปเข้าข้างเขาเถอะ เพราะเขาเอาคดีมาขู่แล้ว กับอีกประเภทหนึ่ง คือ เป็นหนี้เป็นสิน อยู่ๆเอาเงินก้อนใหญ่มาให้ ก็น่าสนใจอยู่ กับอีกประเภทหนึ่ง ก็อาจจะมั่นใจตัวเองว่า ตัวเองเป็นที่นิยมดี แล้วก็คิดว่าได้ตังค์เยอะด้วยก็น่าจะไป แต่ก็เป็นเรื่องที่ผมต้องแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทย ที่บุคคลเหล่านี้เขาเสียสละให้ เขาออกไปจากพรรคเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้คัดนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาบ้าง
ถามอีกว่า คิดอย่างไรก็ข้อกล่าวหาเป็นนักโทษหนีคดี นายทักษิณ ตอบว่า เฉยๆ วันนี้ทั้งโลกเขารู้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่งั้นเราไปไหนไม่ได้ขนาดนี้หรอก
เมื่อถามว่า มีแผนอย่างไรบ้างก่อนการเลือกตั้งปีหน้า นายทักษิณ กล่าวว่า ตนกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกรัฐธรรมนูญกีดกันทุกอย่าง ก็คงไม่มีอะไร มีแต่หัวใจให้กับประชาชนเท่านั้นเอง มีหัวใจห่วงใย อยากให้ประชาชนได้เลือกพรรคการเมืองที่ดี เพื่อจะได้มีสิทธิเสรีภาพสักที หลังจากถูกกดขี่ ทำอะไรก็ไม่ได้ กินแฮมเบอร์เกอร์ยังมีปัญหาเลย
เมื่อถามถึงความเห็นเกี่ยวกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ อาจกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายทักษิณ ตอบว่า “ความอยากของคน มันห้ามไม่ได้ เพราะมันอยาก พอเป็นแล้วมันมัน”

เมื่อถามว่าขอให้ช่วยเล่าถึงการตัดสินใจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ออกนอกประเทศ นายทักษิณ หัวเราะและตอบว่า “อย่าไปอธิบายอะไรเลย มันแล้วไปแล้ววันนี้เราสองคนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน วันเกิดที่ผ่านมาผมก็อวยพรให้เขาว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนอย่างมีคุณภาพ เราจะใช้ชีวิตที่มีความหมาย เราจะไม่ทุกข์ เพื่อให้คนที่รักและห่วงใยเรา จะได้ไม่ต้องกังวลเพราะทุกคนมีสิ่งท้าทายในชีวิตอยู่มากมาย เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่จำไว้อย่างว่าเราสองคนคืออดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ความรักชาติ รักพี่น้องประชาชนมีอยู่เต็มหัวใจเพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงชาติ คิดถึงประชาชนตลอดเวลาอยู่แล้ว”


Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: