อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค (กลาง) พูดจากับพวกผู้สนับสนุน ภายหลังปรากฎตัวในศาลที่กรุงกัวลาลัมเปอร์วันพฤหัสบดี (25 ต.ค.) ซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 6 กระทง แต่ศาลยังให้ประกันตัว |
เอเจนซีส์ – อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ถูกตั้งข้อหาเพิ่มอีก 6 ข้อหาเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ต.ค.) จากการกระทำผิดหน้าที่ของผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ของกองทุน 1เอ็มดีบี ตลอดจนความผิดเกี่ยวกับการฉ้อฉลในโครงการเมกะโปรเจ็กต์จากจีน รวมแล้วนับถึงตอนนี้นาจิบถูกตั้งข้อหาแล้วทั้งสิ้น 38 ข้อหา
ทางด้าน เออร์วาน เซริการ์ อับดุลเลาะห์ อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงคลัง ถูกตั้งข้อหาเดียวกัน และกลายเป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูงสุดที่ตกเป็นจำเลยนับจากนาจิบพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งคู่ปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 20 ปี และค่าปรับจำนวนหนึ่ง รวมทั้งการโบย ทว่า ทั้งนาจิบและเออร์วานได้รับการยกเว้นจากการโบยเนื่องจากอายุเกิน 50 ปี
นาจิบแถลงภายหลังเดินทางออกจากศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ในข้อกล่าวหาไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดระบุว่า ตนเป็นผู้รับผลประโยชน์จากเงินของรัฐบาลที่สูญหายไป
ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของมหาเธร์ โมฮัมหมัด ไล่เช็คบิลการทุจริตและตั้งข้อหาอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคน ซึ่งรวมถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี
เป้าหมายหลักในคดีล่าสุดคือเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่หายไปจากกองทุน 1มาเลเซียน ดิเวลอปเมนท์ เบอร์ฮัด (1เอ็มดีบี) ที่นาจิบก่อตั้งขึ้นในปี 2009
เออร์วาน เซริการ์ อับดุลเลาะห์ อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงคลัง (ที่2จากซ้าย) ขณะถูกตำรวจพาไปขึ้นศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ต.ค.) ในคดีเดียวกับ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค |
อาซัม บากี ผู้ช่วยกรรมาธิการหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของมาเลเซียเผยว่า ข้อหา 4 จาก 6 ข้อหาที่มีการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี พัวพันกับเงิน 4,780 ล้านริงกิตที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงยอมความระหว่าง 1เอ็มดีบีกับกองทุนไอพีไอซีของรัฐบาลอาบูดาบีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง 1เอ็มดีบีตกลงจ่ายเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์ให้ไอพีไอซี หลังจากทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันเรื่องการจ่ายค่าหุ้นกู้
ใน 4 ข้อหาที่โยงใยกับ 1 เอ็มดีบีเหล่านี้ เออร์วานและนาจิบถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดหน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์แทนผู้รับประโยชน์ ทั้งในส่วนของเงิน 220 ล้านริงกิตที่จ่ายให้ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์, เงิน 1,300 ล้านริงกิตที่จ่ายให้โครงการให้การอุดหนุนและความช่วยเหลือในรูปเงินสดโครงการหนึ่ง, และเงิน 3,300 ล้านริงกิตที่จ่ายให้กองทุนอื่นๆ ของรัฐบาล
มูฮัมเหม็ด ชาฟี อับดุลเลาะห์ ทนายความของนาจิบ แถลงว่า ลูกความของตนจ่ายเงินเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
เขาเสริมว่าอีก 2 ข้อกล่าวหานั้นเกี่ยวข้องกับโครงการสร้างสายท่อส่งก๊าซและ ทางรถไฟอีสต์ โคสต์ เรลลิงก์ (อีซีอาร์แอล) มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามของจีนในการผลักดันโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานในมาเลเซีย ที่มีการลงนามขณะที่นาจิบยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ถูกระงับโดยมหาเธร์ด้วยเหตุผลว่า โครงการดังกล่าวไม่เป็นธรรมสำหรับมาเลเซีย และน่าสงสัยว่า เป็นแผนการเร่งระดมเงินสดไปโปะหนี้ของ 1เอ็มดีบี
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาอนุญาตให้ประกันตัวนาจิบและเออร์วานด้วยวงเงินคนละ 1 ล้านริงกิต
ก่อนหน้านี้นาจิบถูกตั้งข้อหาอยู่แล้ว 32 ข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน การทุจริต และการกระทำผิดหน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์แทนผู้รับประโยชน์จากการทำธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับ 1เอ็มดีบี โดยอดีตผู้นำแดนเสือเหลืองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และการพิจารณาคดีจะเริ่มต้นในปีหน้า
ในวันพฤหัสบดีเช่นกัน ฮาซานาห์ อับดุล ฮามิด อดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับของมาเลเซียที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนาจิบโดยตรง ถูกตั้งข้อหากระทำผิดหน้าที่ของผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลผลประโยชน์แทนผู้รับประโยชน์จากการยักยอกเงินของรัฐจำนวน 12.1 ล้านดอลลาร์ก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม
รอสมะห์ มันซอร์ ภรรยาของนาจิบ ก็ถูกตั้งข้อหาฟอกเงินเมื่อต้นเดือน และต้องวางเงินประกันตัวออกไป 2 ล้านริงกิต
นอกจากนี้ทางการสหรัฐฯ ยังกล่าวหาว่ามีการยักยอกเงิน 4,500 ล้านดอลลาร์จาก 1เอ็มดีบี และราว 700 ล้านดอลลาร์ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิบ
Post A Comment: