"บิ๊กแม้ว" ยังต้องหนีไปเรื่อยๆ มีคดีรอตัดสินเพียบ


24 ก.ย.61- แม้คำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ขณะนั้น) ซื้อที่ดินรัชดาจำนวน 33 ไร่78 ตารางวา ในราคา 772 ล้านบาทจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2561  กำลังจะสิ้นสุดอายุความ ในวันที่ 21 ตุลาคม 2561นี้  ก็ตาม แต่ไม่ทำให้นายทักษิณสามารถเดินทางกลับประเทศไทยโดยไม่ถูกจับกุมได้ เพราะยังคงมีอีกหลายคดีที่รอการพิจารณาคดีของศาล
ปัจจุบันนายทักษิณถูกออกหมายจับทั้งสิ้น 4 หมายจับ ประกอบด้วย 
1. คดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์   กรณีฟ้องว่านายทักษิณ อนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของเอ็กซิมแบงก์ให้กับรัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการปรับปรุงระบบโทรคมนาคมของประเทศพม่า เพื่อเอื้อประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัท ชิน แซทเทิลไลท์ และบริษัทในเครือตระกูล ชินวัตร
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 51 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้ออกหมายจับเพื่อให้ติดตามตัวมาในนัดพิจารณาคดีครั้งแรกเนื่องจากนายทักษิณไม่มาศาลและหนีคดีไป และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว
2.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว( หวยบนดิน ) 
คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 26 ก.ย.51 นายทักษิณ ไม่มาศาล ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับ  และให้จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของนายทักษิณ เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้นำตัวมาพิจารณาคดี 
 3.คดีแปลงสัมปทานมือถือ–ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต 
คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 15 ต.ค.51 และศาลได้ออกหมายจับนายทักษิณ จำเลย เนื่องจากไม่มาศาล และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความไว้เป็นการชั่วคราว
4.คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้กว่า 9,000 ล้านบาท ให้กับกฤษดามหานคร 
คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับนายทักษิณ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2555  เนื่องจากไม่มาศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรก
ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมานี้เอง ศาลได้ออกหมายจับในคดีนี้อีกใบเนื่องจากนายทักษิณไม่มาศาล 
ส่วนคดี คดีซื้อขายที่ดินรัชดาฯที่ออกหมายจับเมื่อ 21 ต.ค. 2551 มีอายุความตามหมายจับ 10 ปี ครบกำหนดตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับคดีทีพีไอ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ยกฟ้องนายทักษิณไปแล้ว ทำให้หมายจับสิ้นสุดลง
ทั้งนี้การที่พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ที่ยกร่างขึ้นตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบังคับใช้ไปแล้ว ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ ทำให้นายทักษิณอาจต้องโทษจำคุกอีกครั้ง การกลับประเทศไทยเพราะอายุความสิ้นสุดลงนั้น อาจต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าสิบปี
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายใน
กำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิดเป็นอันขาดอายุความ
(1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกยี่สิบปี
(2) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ยังไม่ถึงยี่สิบปี
(3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี
(4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี
(5) หนึ่งปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น
ก่อนนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาคดีกู้กรุงไทย จำคุก นายวิโรจน์ จำเลยที่ 3, ร.ท. สุชาย เชาว์วิศิษฐ์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นประธานบอร์ดบริหาร ธนาคารกรุงไทยในขณะนั้น คนละ 18 ปี รวมทั้ง ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยกับพวกร่วมกันชดใช้เงินคืนให้กับธนาคารกรุงไทยด้วย.

ข่าวจาก ไทยโพสต์
Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: