14 ก.ย.61 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์เรื่อง "บทเรียนประเทศไทย"ระบุว่า "พี่น้องผู้ร่วมชะตากรรมที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ผมจะพูดในหัวข้อเรื่อง “บทเรียนประเทศไทย” เราลองถอยย้อนไปนะครับ ในปี 2549 ในอีก 5 วันข้างหน้า คือวันที่ 19 กันยายน ผมเองนะครับอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนทุกฝ่าย ไม่ว่าในซีกพรรคการเมือง ในซีกของผู้มีอำนาจและประชาชน
วันที่ 19 กันยายน ปี 2549 นั้น ประเทศไทยอยู่ในเขตของพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง นั่นหมายความว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2540 นั้นก็ดำรงอยู่ และก็อยู่ในขั้นตอนพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เรายังเดินไปไม่ถึงเลย
เพราะฉะนั้นนะครับ มาคราวนี้ที่ผมได้แสดงความคิดเห็นเพื่อที่จะร่วมให้สังคมนี้ได้ตระหนักกันก็คือว่า ถ้าเราไม่ช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ บทเรียนของประเทศไทยนั้นมีอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ต่างๆนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดระยะเวลา บทเรียนทางการเมืองมันได้อธิบายแล้วว่า ไอ้ที่แน่ๆ ก็ยังไม่ใช่ก็ได้
เพราะฉะนั้นนะครับ การประคับประคองสถานการณ์กันด้วยความอดทนนั้น ที่ผมมีการเรียกร้อง และผมเองก็เริ่มต้นด้วยตัวผมก่อน ความจริงนะครับ การโต้ตอบด้วยวาจาแรงไปแรงมานั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องยากของผมนะ แต่ผมเองก็ต้องเริ่มต้น เพราะผมต้องการชวนว่าคนไทยนั้นต้องการที่จะร่วมมือกัน เพื่อที่จะพาประเทศไทยข้ามพ้นภาวะวิกฤตที่เราดำรงอยู่ และก็วิกฤตที่จะรออยู่ข้างหน้านั้น ให้ผ่านไปกันให้ได้
เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าถ้าเราไม่ตกลงกันเสียก่อน สร้างดาวกันคนละดวง ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ เอาเรื่องของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญกันมาก่อน และต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายเป้าประสงค์กันเฉพาะ โดยไม่ได้สนใจกระดานทั้งกระดานเลย กระดานที่ว่าก็คือประเทศไทยนั้น ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นนะครับ 19 กันยายน เราก็รอการเลือกตั้ง 22 พฤษภาคม 2557 เราก็รอการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นนะครับ การที่ประเทศไทยเราว่างเว้นการเลือกตั้งมาระยะเวลานาน และที่ทุกคนก็มีความหวังกันว่าความเดือนร้อนทางเศรษฐกิจที่ทุกคนได้เสียสละอดทนให้กับความสงบของชาติบ้านเมืองนั้น จะได้รับการแก้ไขนั้นจะได้บังเกิด ยิ่งออกมาบอกกันว่า 24 ก.พ. 2562 นั่นคือวันเลือกตั้ง ยิ่งจะสร้างความหวังให้กับคนไทยมากยิ่งขึ้น
แต่อย่างที่ผมได้อธิบายความที่ผ่านมาว่า กลไกของรัฐธรรมนูญปี 60 นั้น คือความเลวร้ายที่รออยู่ข้างหน้า จริงอยู่ครับ หลายคนนำเสนอว่าอย่างไรก็ต้องแก้ อย่างไรก็ต้องเลิก แต่ลองไปดูนะครับ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 นั้นยากกว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 หลายเท่านัก แม้ว่าบอกว่าให้แก้ไขได้ แต่ลองไปดูเถอะครับ เหมือนกับบอกว่าให้ไปดวงอาทิตย์ได้นั่นแหละ ไม่มีใครห้ามที่จะไปดวงอาทิตย์ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ใครจะไปดวงอาทิตย์ได้ เพราะฉะนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 นั้น รอปาฏิหาริย์อย่างเดียวในทางลายลักษณ์อักษร แทบหาความเป็นไปไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้นนะครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้น คือเราจะเดินไปถึงการเลือกตั้งกันได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมคือคนที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับสมัคร เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดก็ไม่ได้ มีภูมิต้านทานต่ำในทุกเรื่องราว แต่ผมมีความปรารถนาต้องการให้ประเทศไทย สามารถลุกขึ้นยืนและก้าวเดินไปข้างหน้าได้
วันนี้เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าคนไทยทั้งหมดทั้งปวงนั้นมีความยากลำบาก คนไทยได้ใช้ความอดทนขั้นสูงสุดกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหลายคนบอกว่าผมเปลี่ยนไปหรือเปล่า ผมบอกว่าความรักชาติบ้านเมืองไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าประวัติศาสตร์และบทเรียนในชีวิตของผมนั้นได้สอนให้รู้ว่า เดินอย่างไรเราจึงจะไปถึง เดินอย่างไรเราจะไปไม่ถึง
วันนี้ผมมาชวนคนไทยว่าเราเดินไปให้ถึง เพื่อจะได้ข้ามพ้นวิกฤตที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งผมจะสนทนากับท่านต่อในวันพรุ่งนี้ วันนี้สวัสดีครับ"
ข่าวจาก ไทยโพสต์
ข่าวจาก ไทยโพสต์
Post A Comment: