วานนี้ (1 ก.ค.) เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลจะช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาบริเวณพรมแดนซีเรีย-อิสราเอล แต่จะไม่อนุญาตให้ชาวซีเรียเข้ามาในอิสราเอล
Xinhua News
ผู้ลี้ภัยนับหมื่นคนได้หนีออกประเทศไปทางชายแดนที่ติดกับจอร์แดนและบริเวณที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) หลังจากกองทัพซีเรียได้ทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ของกลุ่มกบฏในเมืองดารา (Daraa) เมืองเล็กบริเวณชายแดนซีเรียติดกับจอร์แดนอย่างหนักหน่วง ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
"เราจะป้องกันพื้นที่พรมแดนของเราต่อไป เราจะช่วยมากเท่าที่เราสามารถทำได้ แต่เราจะไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเข้ามาในดินแดนของเรา" เนทันยาฮูกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ที่เยรูซาเล็ม
พร้อมกันนั้นก็ย้ำว่าอิสราเอลจะเรียกร้องให้กองทัพซีเรียปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันในปี 1974 อย่างเข้มงวด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า ทางตนได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยซีเรีย ประกอบด้วยเต็นท์ 300 หลัง อาหาร 13 ตัน อาหารเด็ก 15 ตัน อุปกรณ์การแพทย์และยา 3 คันรถลาก ตลอดจนเสื้อผ้าและรองเท้าอีก 30 ตัน
โฆษกทหารกล่าวในแถลงการณ์ว่า "พลเรือนชาวซีเรียหลายพันคนที่กำลังหนีภัยสงครามอยู่ในสภาพที่น่าสงสารในค่ายใกล้ชายแดนของอิสราเอลเพราะขาดน้ำ ไฟฟ้า แหล่งอาหาร และปัจจัยสำคัญต่างๆ"
สื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างข้อมูลของกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ว่ามีผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 120,000 คนที่ต้องพลัดถิ่นเนื่องจากการสู้รบต่อต้านกบฏในดารานั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งอิสราเอลและจอร์แดนล้วนกล่าวว่าพวกตนจะไม่ให้ผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ
นายแพทย์รายหนึ่งจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่มีสำนักงานใหญ่ในอิสราเอล เรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยสามารถหาที่หลบภัยในอิสราเอลได้ โดยกล่าวว่าอิสราเอลไม่ควรนิ่งดูดายเพราะหลายชีวิตในซีเรียกำลังตกอยู่ในอันตราย
Xinhua News
Post A Comment: