วันอังคารที่ผ่านมา (26 มิ.ย.) หลายมลรัฐของสหรัฐอเมริกายื่นฟ้องคณะรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อกรณีการพรากเด็กจากพ่อแม่ผู้อพยพที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก โดยระบุว่าคำสั่งยุติการพรากจากพ่อแม่และเด็กที่ทรัมป์ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องหลอกลวง

ในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลแขวงซีแอตเทิล 17 มลรัฐรวมถึงเขตปกครองพิเศษโคลอมเบีย (กรุงวอชิงตัน) คัดค้านนโยบายของรัฐบาล โดยระบุว่าบางส่วนขัดต่อรัฐธรรมนูญเนื่องจาก “กระทำโดยเจตนาและมุ่งร้าย” ต่อผู้อพยพที่มาจากลาตินอเมริกา

“คำสั่งพิเศษฉบับใหม่ไม่ได้มีผลให้ครอบครัวที่โดนแยกออกจากกันได้กลับมาอยู่ด้วยกัน และไม่ได้ปกป้องครอบครัวเหล่านั้นจากการโดนแยกจากกันอีกในอนาคต” อัยการสูงสุดรัฐอิลลินอยส์ระบุในแถลงการณ์

ทั้งนี้ การแยกเด็กออกจากพ่อแม่ผู้อพยพเริ่มต้นขึ้นเนื่องจากนโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” ระยะเวลา 2 เดือนของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อดำเนินคดีกับผู้บรรลุนิติภาวะทุกคนที่เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ที่เดินทางมาพร้อมเด็ก

แต่หลังจากมีภาพเด็กถูกขังกรงเผยแพร่สู่สายตาประชาชนและโดนเสียงคัดค้านจากทุกภาคส่วน ทรัมป์ก็กลับลำด้วยการลงนามในคำสั่งพิเศษให้ยุติการแยกเด็กและครอบครัวออกจากกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าจะคุ้มครองครอบครัวเหล่านั้นอย่างไร จัดหาที่อยู่อาศัยอย่างไร และประเมินสถานะทางกฎหมายอย่างไร

ก่อนทรัมป์จะมีคำสั่งดังกล่าว เด็กๆ มากกว่า 2,300 คนถูกแยกจากพ่อแม่เพราะนโยบายของเขา จนล่าสุดยังมีเด็กอีกราว 2,000 คนที่ไม่ได้กลับมาเจอพ่อแม่


Xinhua News
Axact

Axact

Vestibulum bibendum felis sit amet dolor auctor molestie. In dignissim eget nibh id dapibus. Fusce et suscipit orci. Aliquam sit amet urna lorem. Duis eu imperdiet nunc, non imperdiet libero.

Post A Comment: