23 ส.ค. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานเรื่องราวของหนุ่มอีสานเดินเท้าจากจังหวัดตรัง หอบเถ้าอัฐิภรรยามาพร้อมสุนัขคู่ใจใกล้ถึงจุดหมายดอยอินทนนท์ โดยนายศักดิ์ชัย สุพันธมาตย์ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 บ้านหนองไผ่ ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เดินเท้าพร้อมกับนำเถ้ากระดูกภรรยาจากจังหวัดตรังตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เพื่อไปเที่ยวดอยอินทนนท์ตามสัญญาตอนมีชีวิต และถูกแชร์ในโลกโชเชียลในขณะนี้
ล่าสุดได้เดินเท้าออกจากอำเภอดอยหล่อ เหลือระยะทางอีกราว 10 กิโลเมตรจะเข้าสู่เขต อำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ ตลอดทางมีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาให้กำลังใจนำอาหารและเงินมามอบให้ บางคนประทับใจจนน้ำตาซึม ก่อนเจ้าตัวจะพักที่ตัวอำเภอจอมทองก่อนมุ่งขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับภรรยาที่จากไปไม่มีวันหวนกลับมาเมื่อปลายปี 2559
โดยนายศักดิ์ชัย เดินเท้าเข็นรถเข็นสองล้อที่มีสุนัขคู่ใจ 2 ตัวชื่อ เจ้ากระเช้า กับนะโม ที่พบกันระหว่างทาง ได้ร่วมเดินทางมาตามถนนเชียงใหม่-ฮอด ซึ่งเหลือระยะทางประมาณกว่า 10 กิโลเมตรจะถึงตัวอำเภอจอมทอง ตลอดระยะทางมีชาวบ้านและผู้ที่พบเห็นต่างเข้าไปพูดคุยและให้กำลังใจนอกจากนี้ยังมอบอาหารแห้ง อาหารสุนัข ตลอดทั้งเงินมามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ
นายชาญณรงค์ ปันนันศรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทธสวรรค์ เชียงใหม่ อาสาขับรถกู้ภัยติดตามให้สัญญาณกับรถที่สัญจรผ่านไปมาพร้อมกับส่งนายศักดิ์ชัยจนถึงอำเภอจอมทอง และนำเถ้ากระดูกแฟนสาวเข้าทำบุญที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ก่อนที่จะพักผ่อนที่บริเวณเชิงดอยอินทนนท์ หลังจากนั้นจึงจะเดินทางต่อขึ้นดอยอินทนนท์ในวันต่อไป
นายศักดิ์ชัยได้เดินเท้ามาตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 โดยออกจากจังหวัดตรัง มาค่ำไหนนอนที่นั่น ตลอดทางมีชาวบ้านคอยช่วยเหลือ บางทีก็นอนป่าช้า นอนวัดบ้าง บางทีก็ริมถนน เหตุผลที่ทำเช่นนี้เพราะเคยให้สัญญากับแฟนว่าจะพาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ เมื่อแฟนได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2559 จึงได้ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะพาแฟนไปทำบุญและโปรยอัฐิบนดอยอินทนนท์ ระหว่างทางก็ได้เพื่อนร่วมเดินทางคือ สุนัขตัวแรกชื่อ "กระเช้า" จากจังหวัดสมุทรปราการ และ "นะโม" จากจังหวัดพิษณุโลก โดยพบเจอเป็นสุนัขพลัดหลงหรือถูกทิ้งไว้ข้างทาง ล่าสุดก็เจอลูกแมวดำหนึ่งตัวอาศัยอยู่ในพงหญ้าข้างทาง จึงเก็บมาเลี้ยงร่วมเดินทางด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องแฟนสาว นายศักดิ์ชัยถึงกับร้องไห้ออกมาทันที และบอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ตนอยู่กับแฟนเราทั้งสองคนรักกันมาก อยู่แบบกัดก้อนเกลือกิน ไม่เคยทะเลาะกันและไม่เคยห่างกัน ตลอดเวลา 17 วันที่เธอป่วยหนัก ตนทำงานไปด้วยและเฝ้าดูแลเธออย่างดีจนวันหนึ่งเธอก็จากไปในที่สุด
"ผมจะร้องไห้ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องของแฟนผม ผมว่าความรักไม่มีอะไรมาวัดได้ บอกตรงๆ ผมเดินๆ ไปคิดไป บางทีก็ได้มีโอกาสทำบุญให้เขา มันเป็นสิ่งที่ผมจะทำเพื่อคนที่ผมรักได้ ซึ่งตลอดทาง ผมจะพูดคุยและเล่าให้เธอฟังว่ามาถึงตรงไหนบ้าง อย่างไรก็ตามผมขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจผม วันนี้ผมมีกำลังใจดีขึ้นและคิดว่าแฟนผมไม่ได้จากไปไหนเพียงแค่เธอปลี่ยนสภาพกลายเป็นเถ้าอัฐิเท่านั้นเองซึ่งเธอยังอยู่กับผมในโลกใบนี้ตลอดเวลา"นายศักดิ์ชัย กล่าว
ข่าวจาก ไทยโพสต์
Post A Comment: